มาทำความรู้จักกับ BB Cream อย่างถ่องแท้ วิธีเลือกซื้อ และการใช้งานกันค่ะ
วันนี้ปุ้ยมาชวนสาวๆ คุยเกี่ยวกับเรื่อง บีบีครีม (Blemish Balm Cream: BB Cream) กันค่ะ
ซึ่งจะมาเล่าถึงที่มาที่ไป ว่าเจ้าบีบีครีมที่เราคุ้นหูและคุ้นเคยกันเนี่ย แท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่
และมาไขข้อสงสัยว่า เจ้าบีบีครีมเนี่ย มันแตกต่างจาก เมกอัพเบสและครีมรองพื้น ยังไงกันแน่
รวมถึง คำแนะนำในการใช้งานด้วยหละค่ะ
บีบีครีม เริ่มต้นจากการใช้ในวงการแพทย์ผิวหนัง เพื่อใช้ในคนไข้ที่ผ่านการรักษาผิวด้วยเลเซอร์หรือการรักษา
ที่ทิ้งริ้วรอย แผลเป็นเอาไว้ จึงใช้บีบีครีมเพื่อปกปิดร่องรอยนั้นๆ
ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อ BB Cream: Blemish Balm Cream ครีมที่มีส่วนผสมของปาล์มสำหรับใช้กับรอยตำหนิบนผิว
โดย บีบีครีมนั้นมีส่วนผสมหลากหลายแล้วแต่วัตถุประสงค์ในการใช้งาน
ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์อันชาญฉลาดที่นำไอเดียของการดูแลผิว ปกป้องและปกปิดผิว มารวมไว้ในขั้นตอนเดียว ซึ่ง ก็คือ
บีบี ครีม = ครีมบำรุง + ครีมกันแดด + เมกอัพเบส + รองพื้น
[BB Cream = Basic Skincare + Sun Protecter + Makeup Base + Foundation]
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีน้องใหม่คลอดตามบีบีครีมมา ก็คือ ซีซีครีม (Color Control Cream: CC Cream)
ซึ่งเป็นพัฒนาการหรือนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนาต่อเนื่องมาจาก บีบีครีม ซึ่งคุณสมบัติที่เพิ่มเข้ามาของ ซีซีครีม คือ
คุณสมบัติของสารควบคุมสีผิว ไม่ดรอป ไม่หมอง สีผิวไม่เปลี่ยนระหว่างวัน ถ้าคิดตามสูตรง่ายๆ
[CC Cream = Basic Skincare + Sun Protecter + Makeup Base + Foundation + Color Controller]
ซีซี ครีม = ครีมบำรุง + ครีมกันแดด + เมกอัพเบส + รองพื้น + สารควบคุมสีผิว
เรียกได้ว่า ซีซีครีม นี่ก็คือ บีบีครีมประเภทหนึ่ง ที่สามารถควบคุมสีผิวหลังจากใช้งานไปแล้วไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง
ประเภทของบีบีครีม ในแต่ละยี่ห้อนั้นก็แตกต่างกันไป ตั้งแต่ต้นตำหรับที่เป็นเนื้อครีมเข้มข้น
จนมีวิวัฒนาการมาเป็น เนื้อครีมที่สามารถ เปลี่ยนเป็นเนื้อแป้งได้
หรือแม้กระทั้งแบบที่เป็นเนื้อแป้งเลยที่ เรียกกันว่า แป้งบีบี (BB Powder: Blemish Balm Powder)
ทำให้ใช้งานได้สะดวกและง่ายขึ้น
ถ้าพูดถึงในแง่ของส่วนผสม เราจะไม่มีทางรู้ได้แน่ชัดเลยว่า
สัดส่วนที่แท้จริงของบีบีครีมนั้น ประกอบไปด้วยอะไรในอัตราส่วนเท่าไหร่บ้าง
ดังนั้นการเลือกใช้ ควรจะเลือกจากผลลัพธ์หลังจากทาเจ้าบีบีครีมลงที่ผิวแล้วนั้นเอง
ซึ่งจุดนี้ เราจะสามารถตอบคำถามได้แล้วว่า
บีบีครีม แตกต่างจากการใช้ เมกอัพเบส (Makeup Base) และรองพื้น (Makeup Foundation) อย่างไร
นั่นก็คือ บีบีครีมจะเป็นส่วนผสมลับของเมกอัพเบสและครีมรองพื้นที่ผู้ผลิตผสมมาให้เรา เสร็จสรรพ
ส่วนการใช้เมกอัพเบสแยกกับรองพื้นคนละขั้นตอนนั้น เราสามารถกำหนดสัดส่วนได้เองค่ะ
กลับไปที่วัตถุประสงค์ของจุดเริ่มต้นขอ งบีบีคีม คือ ผลิตมาเพื่อให้คนไข้นำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย
ซึ่งไม่ใช่คนไข้ทุกคนจะรู้จักการแต่งหน้าด้วยเมกอัพเบส รองพื้นและคอนซีลเลอร์เพื่อปกปิดรอยแผลบนผิว
ดังนั้นวัตถุประสงค์ คือ ออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการแต่งหน้าค่ะ
แต่ส่วนใครที่ต้องการการใส่รายละเอียดใน การแต่งหน้าหรือปกปิดผิว
ก็สามารถแยกขั้นตอนการปกปิดผิวได้ตามความถนัดและความต้องการจะดีที่สุด
มาพูดถึงในแง่ของการใช้งานกันบ้าง ผู้ที่เหมาะสำหรับการเลือกใช้ บีบีครีม ได้แก่
1. ผู้ที่ต้องการดูแลผิวในวันที่ต้องเร่งรีบ ทั้งให้ความชุ่มชื้น และการปกป้องผิวจากแสงแดด
เพราะมีส่วนผสมของครีมบำรุงผิวและครีมกันแดด ซึ่งบางชนิดเพิ่มการดูแลผิวแบบพิเศษลงไปด้วย
เช่น การลดการอักเสบของสิว การทำให้ผิวสว่างขึ้น การลดริ้วรอยจางๆ
2. ผู้ที่ต้องการปกปิดจุดบกพร่องต่างๆ บนผิว ในระดับบางเบา
ทั้ง รอยแผลเป็นจากสิว รอยกระ รอยฝ้า และรอยด่างดำ ดูจางลง
เพราะมีส่วนผสมของครีมรองพื้นที่ช่วยในเรื่องการปกปิดผิวและจุดบกพร่องของ ผิว
3. ผู้ที่ต้องการปรับสีผิวให้ใบหน้ากระจ่างใส เพราะมีส่วนผสมของเมกอัพเบส ที่มักจะช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้น
4. ผู้ที่ต้องการให้เมกอัพติดทนได้ดีขึ้น (ในกรณีที่ไม่ใช้เมกอัพเบส)
เพราะมีส่วนผสมของเมกอัพเบส ซึ่งบางประเภทก็ส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมันให้กับผิวหน้าได้ด้วย
การเลือกซื้อ บีบีครีม
เนื่องจาก บีบีครีม ส่วนใหญ่ที่นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี
ซึ่งผู้ผลิตก็ผลิตให้สอดคล้องกับสภาพผิวของสาวเกาหลี
ดังนั้นเนื้อครีมจึงมีสีที่สว่างกว่าสีผิวของสาวไทย ฉะนั้นแล้วก่อนตัดสินใจซื้อ
สาวๆ ควรเลือกและทดลองสีให้เหมาะกับโทนสีของเราก่อน โดยเทคนิคการเลือกมีดังนี้ค่ะ
1. โทนสีผิว โดยส่วนใหญ่ จะมี 2 โทน คือ
โทนสีผิวเหลือง และโทนสีชมพู เลือกโทนให้เหมาะกับผิวของเรานะคะ
ทดสอบโทนสีผิวบริเวณข้อมือ หงายข้อมือขึ้นดู จะเห็นได้ชัดสุด
ถ้าเห็นเส้นเลือดตัวเองเป็นสีม่วง แสดงว่าเป็นคนโทนสีผิวชมพู
แต่ถ้าเห็นเป็นสีเขียว แสดงว่าเป็นคนโทนผิวเหลือง
แต่ถ้าเป็นไปได้ ให้้ทดลองที่ผิวหน้า บริเวณข้างแก้ม ที่ปราศจากเครื่องสำอาง
เลือกสีที่ใกล้เคียงกับระดับสีผิวของใบหน้าด้วยจะดีที่สุด
โดยปกติแล้วบีบีครีมจะใช้เวลาเซ็ทตัวกับผิวและปรับสีผิวประมาณ 1 – 3 นาที
รอดูจนกว่าสีของครีมที่อยู่บนผิวจะนิ่งแล้ว
ค่อยตัดสินใจว่าเราโอเคกับมันมั้ย
2. ความปกปิด เลือกระดับความปกปิดในระดับที่เราพึงพอใจ
ชอบบางเบาหรือว่าหนาแน่นก็เลือกเอง เพราะแต่ละยี่ห้อมีส่นผสมที่แตกต่างกัน
3. ทดสอบอาการแพ้ เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับสาวผิวแพ้ง่าย
ทดสอบที่บริเวณข้อพับหรือหลังใบหู แล้วไปเดินเล่นซัก 3 – 4 ชม.
ถ้าไม่เกิดอาการคันหรือมีผื่นแดง ก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ
เทคนิคการใช้บีบีครีม
เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด เราสามารถใช้ บีบีครีม หลังจากล้างหน้าให้สะอาดแล้วได้เลย
เนื่องจาก บีบีครีม มีส่วนผสมของครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดอยู่แล้ว เราสามารถข้ามขั้นตอนดังกล่าวได้ด้วย บีบีครีม
ขั้นตอนที่ 1. บีบ บีบีครีม ขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวพักไว้ที่หลังมือก่อน
เราจะไม่แต้มไปที่ใบหน้าเลย เพราะเราจะควบคุมปริมาณของเนื้อครีมไม่ได้
ขั้นตอนที่ 2. ใช้นิ้ว มือค่อยๆ แตะเนื้อครีมลงที่ผิวทีละน้อย
โดยเริ่มจากพื้นที่ผิวในบริเวณกว้างๆ ก่อน
เช่น แก้มหรือหน้าผาก ปริมาณเนื้อครีมทีใช้เพียงน้อยนิดเท่านั้น
ค่อยๆ เกลี่ยในทิศทางเดียวกับเส้นขน คือ บนลงล่าง ในออกนอก
แล้วดูระดับความปกปิดผิวว่าพึงพอใจหรือยัง
ถ้ายัง ใช้วิธีรอให้เนื้อครีมรอบแรกเซ็ทตัวอยู่กับผิวก่อน แล้วค่อยลงซ้ำลงไปอีกรอบ
เพียงเท่านี้ผิวของเราก็จะสวยนวลเนียนขึ้นแบบทันตาเห็นเลย
ขั้นตอนการเกลี่ยถือว่าสำคัญมาก
ไม่แนะนำให้แต้ม 5 จุดแล้ว เกลี่ยวนเหมือนการทาครีมบำรุงผิว
ถึงแม้ว่าบีบีครีมจะมีส่วนผสมด้วยครีมบำรุงผิวก็ตาม
แต่มันก็มีส่วนผสมของพวกเมกอัพเบสและครีมรองพื้นด้วยนะ อย่าลืม
ถ้าหากปริมาณของเนื้อครีมมากไป ผิวของเราจะดูขาววอกและจะไหลเยิ้มในตอนกลางวัน (Caky)
ขั้นตอนที่ 3. เซ็ทผิว ด้วยแป้งฝุ่นเนื้อบางเบา ผิวหน้าของเราก็สวยเด้งแล้วค่ะ
สำหรับสาวผิวมันใช้พัฟนิ่มๆ แตะแป้งทีละน้อยลงที่ผิวหน้า
ส่วนสาวผิวแห้งใช้แปรงปัดแปรงขนนิ่มๆ ปัดแป้งฝุ่นลงที่ผิวหน้าทีละน้อยๆ เช่นกัน
การใช้แป้งฝุ่นเซ็ทผิว จะทำให้เนื้อครีมของ บีบีครีม นั้นเซ็ทตัวอยู่กับผิวได้นานตลอดตั้งวัน
ส่วนใครที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ก็อาจจะลองใช้บีบีครีมประเภทแป้ง
ก็สามารถจบได้ในขั้นตอนเดียวเลย ทำให้สะดวก แถมยังให้ความเรียบเนียนปกปิดมากขึ้น
เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์ประเภทแป้งจะมีพิกเมนท์การปกปิดที่มากกว่า ประเภทเนื้อครีมนั่นเอง
และสิ่งสำคัญอีกอย่างที่เราไม่ควรละเลย
แม้ว่า บีบีครีม เป็นเนื้อครีมที่บางเบา แต่เราก็ควรทำความสะอาดผิวหน้า
ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางโดยเฉพาะเช่นกัน หากเราไม่ทำความสะอาดผิวให้ดีหละก็
ส่วนผสมทั้ง ครีมกันแดด เมกอัพเบส และรองพื้นที่อยู่ใน บีบีครีม นั้นจะเกาะติดและตกค้างอยู่ในผิวได้
ก่อให้เกิดอาการสิวอุตตัน ผิวอักเสบ และผิวเสื่อมสภาพเร็ว และริ้วรอยตามๆ กันมานะคะ
นอกจากการดูแลความสวยงามของผิวกันแล้ว
ปุ้ยจึงอยากให้สาวๆ เอาใจใส่สุขภาพของผิวไปพร้อมๆ กันด้วยค่ะ
เทรนด์ของ บีบีครีม ถือเป็นกระแสที่น่าสนใจและเป็นทางเลือกให้กับสาวๆ ยุคใหม่ ที่รักการแต่งหน้า
แต่ต้องเร่งรีบกับช่วงเวลาในตอนเช้าก่อนไปเรียนหรือทำงาน บีบีครีม ช่วยให้สาวๆ ใช้เวลาเพียงน้อยนิด ก็สวยออกจากบ้านได้อย่างมั่นใจ