My passion, All beautiful things and any nice concern share the world beauty by puy ~ is me

Commencement Guideline: Carry out การปฏิบัติตัวในวันรับปริญญาให้เฟอร์เฟค

เมื่อเราเตรียมความพร้อมเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว

คราวนี้มาถึงสิ่งที่เราจะต้องคำนึงถึงในวันงานจริงค่ะ
พี่ปุ้ยขอ แบ่งหัวข้อตามนี้นะคะ

Carry Out การปฏิบัติตัวในวันรับปริญญาให้เฟอร์เฟค

Carry out: 1 การเซ็ตอัพครั้งสุดท้าย (อาหารการกิน การเดินทาง วางแผนการติดต่อสื่อสาร)
Carry out: 2 การต้อนรับแขก
Carry out: 3 การถ่ายรูป
Carry out: 4 การดูแลใบหน้าและทรงผม
Carry out: 5 การถ่ายรูปกับอาจารย์และเพื่อนๆ ในคณะ
Carry out: 6 การเตรียมตัวก่อนเดินแถวเข้าสู่หอประชุมตามเวลานัด
Carry out: 7 การนัดแนะจุดนัดพบกันช่างภาพและ Attendant
Carry out: 8 Scene สุดท้ายของงานรับปริญญา

 

มาเริ่มกันเลยค่ะ

 

Carry out: 1 การเซ็ตอัพครั้งสุดท้าย (อาหารการกิน การเดินทาง วางแผนการติดต่อสื่อสาร)

 

การรับประทานอาหาร ควรทานตั้งแต่ก่อนแต่งหน้า หรือ ระหว่างที่ทำผม ก่อนที่จะลิปสติก
และควรทานให้อิ่มค่ะ เพราะว่า หลังจากนั้นทั้งวัน โอกาสที่จะได้มีอะไรตกถึงท้อง มันน้อยมาก
ถ้าทานก่อนที่จะออกจากบ้านไปแต่งหน้าได้ จะดีมาก เพราะว่า เราจะได้แปรงฟันก่อน
แต่ถ้าทานระหว่างแต่งหน้า ก็ให้ตามด้วยหมากฝรั่งนะคะ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาของกลิ่นค่ะ

 

การเดินทาง ควรวางแผนการเดินทาง และกะเวลาไว้ให้ดีค่ะ
ศึกษาเส้นทางที่จะไป และดูสถิติว่ารถติดมากน้อยแค่ไหน จะได้กะเวลาถูก
และสิ่งสำคัญคือ ที่จอดรถค่ะ
ปกติแล้วทางมหาวิทยาลัย จะระบุรายการที่จอดรถ มาให้ เราก็ลองดูว่า ที่ไหนสะดวกสำหรับเราค่ะ

 

Case study: ของพี่ปุ้ย พี่มาทางสะพานควาย ผ่านอนุเสาวรีย์ จะไปยังจุฬา
พี่ออกจากบ้านสาย  ก็เลยกลัวว่ารถติด เลยนั่งแท็กซี่ไปลงรถไฟฟ้า แล้วลงสถานีราชเทวี แล้วต่อแท็กซี่
สำบากนิดหน่อย แต่ชัวร์ ค่ะ

 

วางแผนการติดต่อสื่อสาร กับแขกที่จะมางาน โดยการสังเกตแล้ว ณ วันนั้น อาจจะเกิดปัญหาในกรณี
1. สัญญาณของเครือข่ายโทรศัพท์ล่ม
2. แบ็ตโทรศัพท์หมด

วิธีป้องกันปัญหาที่เกิดจากทั้ง 2 กรณีค่ะ
- ก่อนลงจากรถหรือก่อนออกจากบ้านหรือระหว่างช่วงที่ว่างก่อนถึงงาน
ให้ทำการตั้งค่า Divert ของการโทรเข้า-ออก ของเราไปที่ ผู้ดูแลหรือติดตามเราในวันงาน (Attendant)
หรือที่โทรศัพท์เครื่องสำรองค่ะ
หรือเป็นเบอร์ที่อยู่คนและเครือข่าย ในกรณีป้องกันปัญหาจากเครือข่ายล่มค่ะ
- จดเบอร์โทรศัพท์ของแขกไว้ตามรายชื่อที่เราลิสไว้ เพราะว่า หากเราต้องการติดต่อกลับไปยังแขก
หรือว่า โทรถามว่า มารึยัง ถึงไหนแล้ว
เพราะว่า การ Divertเป็นช่องทางการติดตามจาก แขก->มาที่เรา ช่องทางสายเดียว

 

Case study: ของพี่ปุ้ย ในวันซ้อม พี่พลาดมาแล้วค่ะ ด้วยความชะล้าใจว่า แบ็ตไม่หมดหรอก
แต่เข้าจริง หมดตั้งแต่บ่ายโมง และของ Attendant เบอร์ 1 ก็หมดด้วย Attendant เบอร์ 2 ก็หมด
(แล้วจามาหมดอะไรพร้อมกันเนี่ย ซวยกว่านี้มีอีกมั้ย) โชคดีที่
Attendant เบอร์ 3 มาทันเวลาพอดี (ขอบคุณน้อง Nichieme มากๆ)
สุดท้าย Divert ไปยัง Attendant เบอร์ 3 โชคดีที่น้องเค้ามีหลายเครื่อง และโชคดีที่พี่มี Attendant หลายคนนะคะ
แต่ว่าพี่ลืมเบอร์โทรของแขกไว้ ดังนั้น แขกที่ตั้งใจจะมา จะสามารถติดต่อได้ เพราะว่า เรา Divert แล้ว
แต่เกิดปัญหาในกรณีที่ แขกคนที่เกิดปัญหาเหมือนเราคือ เค้าก็ Divertไปยังเครื่องคนอื่นเหมือนกัน
แต่คนต่างไม่มีเบอร์กัน ต่างรออีกฝ่ายโทรมา สุดท้าย ไม่ได้เจอกันค่ะ เสียดายจริงๆ ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะมาแล้วแท้ๆ เลย

 

 

Carry out: 2 การต้อนรับแขก

 

อันนี้ขอบอกว่า เป็น personal skill (แล้วจะมาเขียนทำไมอะเนี่ย 555)
ก็ให้เตรียมตัว วางแผนให้ดี คิดล่วงหน้าว่า เราจะต้อนรับแขกของเราแบบไหน
เช่น ในกรณีที่แขกเราหลงทาง หรือแขกมาพร้อมกันหลายๆ คน

 

Case study: ของพี่ปุ้ย คือ ให้น้องสาว (น้องปรอย) ที่เป็น Attendant ประจำตัว
เป็นคนรับโทรศัพท์แทนเกือบทั้งหมด
และให้น้องปรอย บอกพิกัด และเส้นทางที่แขกจะเดินมาหาพี่ปุ้ยค่ะ
(ซึ่งน้องสาวก็ทำได้ดีพอสมควร น่าชมเชยมาก)
และน้องปรอยจะมารายงานว่า จะมีพี่คนนี้ๆ มานะ
พอแขกมาแล้ว พี่ปุ้ยก็เข้าไปทักก่อน ไม่ว่าจะถ่ายรูปอยู่ ก็หยุด แล้วทักแขกก่อนค่ะ
จากนั้น ถ้าจะถ่ายต่อ ก็บอกแขกว่า รอแปปนึงนะ เดี๋ยวถ่ายรูปกับคนนี้ก่อน (ตามคิว)
และ ระหว่างนั้น ถ้ารู้ว่าต้องรอนาน ให้หาไรให้แขกทำไปพลางๆ ก่อนค่ะ
อย่างของพี่ปุ้ย จะให้การ์ดขอบคุณแขก ก็ให้แขกเลิกว่า อยากได้อันไหน
พอถ่ายรูปเสร็จเรามามาเซนต์การ์ดให้พอดี
ไม่ก็แนะนำให้แขกรู้จักกัน หรือรู้จักกับ Attendant ของพี่ปุ้ย
แล้วให้ Attendant คุยกับแขก ต้อนรับแทนเราไปก่อนค่ะ

 

ระหว่างที่แขกรอ ก็ให้เราสงสัญญาณไปเรื่อยๆ ว่า รอแปปนึงนะ
แขกจาได้ไม่รู้สึกว่าถูกทิ้งค่ะ

 

ถ่ายรูปกับแขกพอประมาณ แล้วก็แจกของชำร่วยขอบคุณ และส่งกลับค่ะ

 

 

 

   

Carry out: 3 การถ่ายรูป

 

- ก่อนเริ่มถ่าย หลังจากทักทายกับช่างภาพเรียบร้อยแล้ว
ให้ช่างภาพลองถ่ายเทสดูก่อนว่า หน้าตาและผมเพ้าของเราั้นั้นเป๊ะรึยัง
ดูว่าการแต่งหน้าหน้าสีอ่อนไปมั้ย หรือว่าทรงผมโอเครึป่าว
เผื่อยังมีโอกาสแก้ไข จะได้ไม่พลาดไปทั้งวันค่ะ

 

- ดูด้วยว่าเราสวยด้านไหน มุมไหน จะได้โพสต์ถูก

 

- Brief กับช่างภาพก่อนว่า วันนี้จะถ่ายอะไรบ้าง และจำนวนแขกที่จะมา ทั้งช่่วงเช้าและบ่าย
ช่างภาพจะได้วางแผนการถ่ายกำควบคุมเวลาได้ค่ะ

 

- ถ้ามีรายการสถานที่ หรือซีนที่วางแผนไว้ ก็เชคตามด้วยว่า ที่เราวางแผนไว้ ได้ถ่ายหมดรึยัง

 

- การโพสต์ท่าถ่ายรูปให้อยู่ในขอบเขตอันควร แก่กาลเทศะ และเครื่องแบบที่ใส่ค่ะ
การโพสต์ท่าแบบนี้ไม่ควรอย่างยิ่ง เช่น
การ กอดกันระหว่างหญิงชาย (รวมทั้งท่วงท่าทำนองนี้ที่ไม่เหมาะสม) การหอมแก้มระหว่างหญิงชาย การปีป่ายต้นไม้ การนั่งในลักษณะที่ไม่สึภาพ การนำชุดครุยไปวางในที่ๆ ไม่สมควร เป็นต้นค่ะ

 

- บางมหาวิทยาลัย ไม่อนุญาติให้นำดอกไม้มาประดับที่ศรีษะและชุดครุยนะคะ

 

- ให้ความร่วมมือกับช่างภาพในการโพสต์ท่า (กล้าๆ นิดนึง) จะทำให้งานออกมาดี และสนุกค่ะ

 

- ถ้าเพื่อนคนไหนหรือกลุ่มไหนสนิท และอยากได้ภาพเยอะๆ ช่วยกระซิบช่างภาพนิดนึงนะคะ

- และถ้ามีคนที่แอบปลื้มอยากถ่ายกะเค้าเยอะๆ ให้กระซิบช่างภาพไว้ด้วยเหมือนกัน ควรหาจังหวะบอกล่วงหน้า อย่างตอนที่เค้ากำลังเดินมาแต่ยังมาไม่ถึง หรือใช้ signal ส่วนตัวที่เตรี๊ยมกันไว้กับช่างงาภพก็ได้ สำคัญมาก เพราะถ้าส่งซิกกันต่อหน้า เค้าอาจจะรู้ตัว และอาจจะโดนจับพิรุดเอาได้ค่าาาาา (คำแนะนำดีๆ จาก น้องอ้อน escate)

- และในทางกลับกัน หากมีแขกคนไหน ที่ตามตื้อเราอยู่แล้วเราไม่ชอบ ต้องบอกช่างภาพไว้ จาได้กดแค่รูปเดียวพอ หรือแกล้งกดไม่ติดไปเลย หะๆๆๆ (อันนี้ล้อเล่นนะ)

 

ถ้าใครมีอะไรจะแนะนำเพิ่มรบกวนด้วยนะคะ

 

 

 

Carry out: 4 การดูแลใบหน้าและทรงผม

 

การซับหน้ามัน - ใช้แบบกระดาษหรือฟิล์มซับมัน โดยค่อยๆ กดย้ำๆ ลงไปที่หน้าหลายๆ รอบ อย่าให้วิธีเช็ดแบบปาด นะคะ เพราะว่าแป้งจาหลุดเป็นคราบและหน้าจะเละค่ะ

 

การเติมแป้ง - สำหรับคนที่ผิวหน้าแห้ง ไม่จำเป็นค่ะ แต่ซับมันก็พอแล้ว
ส่วนคนที่ผิวหน้ามันหรือผิวผสม จะเติมแป้งก็ต่อเมื่อ ให้หลังมือแตะ ที่ผิวแล้วรู้สึกว่าหน้าเหนียวมาก
วิธีการแติม พี่ปุ้ยแนะนำให้ใช้แป้งฝุ่นค่ะ

 

โดย เอาแป้งเทลงที่ฝ่ามือ หรือฝากระปุกแป้งเล็กน้อยเท่านั้น
เอาพัฟกดแป้งให้ติดพัฟออกมา
แล้วเอาพัฟมาตีๆ ที่หลังมือ ให้แป้งกระจาย จนไม่มีคราบแป้งที่หลังมือแล้ว ทำนองว่าให้เหลือแป้งบางเบาที่สุด
แล้วเอาพัฟมากดๆ ให้ทั่วใบหน้าค่ะ เหมือนให้พัฟดูดความมันที่หน้าออกมา

 

โปรด อย่า ใช้แป้งผสมรองพื้นปาดหรือทาทับลงที่ใบหน้า เพราะว่า จะทำให้สีที่แต่งมาจางลงไป และทำให้เกิดโอกาสที่แป้งจะเป็นคราบและแตกลายงาได้ค่ะ

 

การเติมบรัชออน
ควรใช้สีที่ใกล้เคียงกับที่แต่งมาตอนเช้านะคะ พี่ปุ้ยแนะนำให้เติมให้เข้มกว่าการแต่งหน้าปกติหน่อยนึง
ระดับความเข้มสังเกตจากตอนที่ช่างแต่งเสร็จใหม่ๆ ค่ะ

 

การเติมลิปติก
สำหรับคนที่ไม่ได้ทานอะไรเลยระหว่างวัน
พี่ปุ้ยแนะนำว่าให้เติมแต่ลิปกลอสค่ะ เลือกสีที่อ่อนๆ อย่างสีชมพูใสๆ หรือสีพีชๆ จะเซพกว่าค่ะ

 

สำหรับคนที่สีหลุดเร็วหรือว่ารับประทานอาหารแล้วหลุด ให้ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดสีเก่าอออกให้หมด
เพราบางทีมันจะมีเศษอาหารเกาะติดอยู่ค่ะ
(สำหรับคนที่ริมฝีปากสีเข้ม หรือว่าใหญ่ ก็ให้ใช้แป้งพัฟผสมรองพื้นกลบรอบริมฝีปากก่อน)
แล้วใช้ลิปสติกสีที่ใกล้เคียงกับที่ช่างทามาให้ หรือใช้สีชมพูออกพีชๆ (จะได้เซพ)
แล้วตามด้วยลิปกรอสสีอ่อนๆ อีกเช่นกัน
ที่พี่ปุ้ยแนะนำให้ใช้สีอ่อนๆ เพราะว่า ส่วนใหญ่การแต่งหน้ารับปริญญา จะแต่งตาค่อนข้างเข้มและติดขนตาปลอม
ซึ่งจุดเด่นจะอยู่ที่ดวงตา ควรจะดรอปสีที่ปากลงจะได้ไม่ไปแข่งกันกับดวงตาค่ะ
และจะเซพกว่าที่จะใช้สีที่เข็ม ซึ่งเสี่ยงต่อการดูมีอายุมากกว่าวัย ในชุดรับปริญญา ซึ่งควรจะเป็นลุคที่ดูสดใสๆ ค่ะ

การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
1 > ขนตาปลอมหลุด ปกติแล้วมันจะไม่หลุดมาทั้งแผงค่ะ จะหลุดช่วงโดคนหัวตา กับปลายหางตา
วิธีจัดการที่พี่ปุ้ยแนะนำ คือ อย่าดึงออกมาทั้งแผงค่ะ ให้เอากาวติดขนตา บีบออกมาจากหลอดเล็กน้อย ดึงปลายขนตาที่หลุด แง้มออกมาจากตานิดนึง แล้วเอากาวแต้มลงไปที่ปลายตนขา แล้วก็ดันให้เข้าตำแหน่งเดิม ดันค้างไว้จนกว่ากาวจะแห้งหรือกือบแห้ง ค่ะ (ถ้าไม่มีกาวติดขนตา ให้ใช้กาวลาเท็กแทนไปก่อนได้ค่ะ แต่อาจจะรอให้กาวแห้งนานกว่านิดหน่อยค่ะ)

2 > มาสคาร่าเปื้อนใต้ตา ให้สังเกตว่า มาสคาร่าที่เปลี่ยนนั้น แข็งหรือป่าว ถ้าแข็งก็แค่เอาเล็บสะกิดออกเบาๆ ค่ะ
แต่ถ้ามันเปื้อนแบบเป็นคราบ ให้ใ้ช้ คอตตอลบัด ชุบกับน้ำหรือครีมบำรุงผิว ค่อยๆ สะกิดๆ ออก
แล้วเอาพัฟกดแป้งผสมรองพื้นออะจากนิดนึง ใช้มุมของพัฟ (พื้นที่เล็กๆ) กดทับลงไปที่รอยเปื้อนค่ะ

3 > แป้งแตกหรือรองพื้นเป็นคราบ อย่าเอากระดาษเช็ดหรือปาดออกนะคะ ไม่งั้นจะเละไปทั้งหน้า
วิธีการแก้ไข ที่พี่ปุ้ยแนะนำ คือ ให้หา ไอเท็มที่มีวิ้งๆ เยอะๆ เช่น แป้งไฮไลท์ หรือ อายชาโดว์สีขาว ที่เป็นไฮไลท์ได้
ให้แปรงปัดกระจายๆ ให้ทั่วบริเวณที่มีปัญหา
หรือถ้าเป็นบริเวณเล็กๆ อย่างร่องแก้มหรือสันจมูก ก็ให้ใช้แปรงเล็กๆ หรือ ใช้คอตตอลบัดก็ได้ แตะไอเท็มวิ้งๆ มาปายปริเวณนั้นอะค่ะ
เพราะว่า ตัววิ้งๆ จะเป็นตัวช่วยกระจายแสง อำพรางรอยแตก ได้ดีมากเลยทีเดียวค่ะ
บางทีอาจจะเห็นด้วยตาเปล่า แต่ว่าถ่ายรูปมาไม่เห็นแล้วค่ะ

4 > รองพื้นเยิ้ม ถ้าเป็นคนที่รู้ตัวเองว่าหน้ามันมาก หรือว่า เหงื่อเยอะมาก ให้คอยซับหน้าตัวเองบ่อยๆ นะคะ อย่าปล่อยให้เยิ้ม หยด ย้อย อยู่แบบนั้นค่ะ เพราะปัญหาต่างๆ จะตามมา (หน้าจะเละ)
วิธีการแก้ ก็ใช้ทิชชู่ซับเหงื่อกับความมันในปริมาณมากๆ ออกไปก่อน แล้วตามด้วยกระดาษซับมัน
จากนั้น ให้ใช้วิธีการเติมแป้ง ที่แนะนำไว้ด้านบนค่ะ (อย่าเอาแป้งผสมรองพื้นลงทับนะคะ เดี๋ยวยิ่งไปกันใหญ่) แล้วตามด้วยการเติมบรัชออน ค่ะ

แต่ถ้าน้องๆ เป็นเซียนแต่งหน้าตังยง สามารถทำได้ คือ เอาแป้งผสมรองพื้น กดๆ ลงไปบริเวณที่มีปัญหา รองพื้นแตก หรือ หน้าลอก บริเวณร่องจมูก ได้ค่ะ พอเอาแป้งลองแล้วพวก สีต่างๆ ที่ช่างแต่งหน้าลงไว้มันก็จะเลือนหายไปด้วย

ก็ให้ตามด้วยการลงไฮไลท์และเฉดดิ้ง และบรัชออน เพื่อสร้างมิติให้ใบหน้ากลับมาสวยเหมือนเดิม

5 > แพนด้าเพราะอายไลน์เนอร์ บางคนใต้ตามัน ทำให้อายไลน์เนอร์หล่นลงมาอยู่ใต้ขอบตาล่าง
กลายเป็นน้องหม๊แพนด้า อย่างเพิ่งตกใจไปค่ะ
วิ๊ธีการที่พี่ปุ้ยแนะนำ วิธีแรก ช่างมันชั้นไม่แคร์ ถ้าไม่มีเวลามากพอ ก็ไม่ต้องไปเช็ดออกค่ะ
ใช้วิธี หาอายชาโดว์ที่มีวิ้งๆ เยอะๆ ทาทับลงไป มันจะกลายเป็น สโมกกี้อายด้านล่าง ดูเก๋ไปอีกแบบ
แต่ต้องดูว่า ด้านบนก็แต่งตาเข็มนะคะ ถ้าแต่งตาอ่อน วิธีนี้ก็ไม่ควรค่ะ

อีกวิธีนึง คือ เอาคอตตอลบัดหรือสำลี ค่อยๆ เช็ดออกก่อน แล้ว ตามด้วยอาชาโดว์อำพรางรอยที่ถกลบไปค่ะ ได้ได้ง่ายๆ ไม่ต้องตกใจค่ะ

 

ทรงผม
คอย สังเกตผมให้ดี ถ้าหากผมตกลงมาปิดหน้า หรือว่าผมหลุดลุ่ย ให้ใช้เจลทาผมปาดเก็บกลับไปที่เดิม แต่ถ้าไม่ได้เตรียมเจลมา ก็ให้ใช้น้ำเปล่าแตะที่ผมเล็กน้อย แล้วงใช้นิ้วสางให้ปอยผมนั้นเข้าไปติดแนบกับทรงค่ะ

 

 

Carry out: 5 การถ่ายรูปกับอาจารย์และเพื่อนๆ ในคณะ

 

เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
เพราะว่า ถ้าไม่มาถ่ายรูปหมู่กับเพื่อนที่ภาค จะยากมากที่เราจะสามารถตะเวนถ่ายกับเพื่อนได้ครบ
และถ้าพลาด อาจารย์ที่ปรึกษาเรา จะงอนค่ะ
อย่างน้อยก็ต้องมีรูปคู่กับอาจารย์ที่ปรึกษษหรืออาจารย์ท่านที่สนิทคนละ 1 รูป
เพื่อที่เราจะได้นำรูปมาให้อาจารย์แปะไว้ในโต๊ะทำงานค่ะ
สิ่งพวกนี้เป็นสิ่งที่มีค่าทางจิตใจของอาจารย์มากนคะ (อาจารย์หลายท่านเคยบ่นให้ฟังค่ะ)

 

การถ่ายรูปหับอาจารย์และเพื่อนๆ ในภาค ควรโพสต์ท่าที่เรียบๆ และสุภาพมากๆ ค่ะ เพราะว่า
รูปพวกนี้จะไปอยู่ในห้องอาจารย์หลายสีปี เราไม่ควรพลาดอไรออกไปค่ะ
เพราะน้องๆ ที่ไม่เคยเห็นเรา จะได้จำภาพของเราที่เรียบร้อยๆ เอาไว้ อาจารย์จะได้ไม่ขายหน้าด้วนค่าาาา ^ ^

 

ปรกติแ้ล้วทางภาควิชา จะประกาศให้มารวมตัวกันเพืื่อถ่ายภาพ คอยตามข่าวให้ดีค่ะ

 

 

Carry out: 6 การเตรียมตัวก่อนเดินแถวเข้าสู่หอประชุมตามเวลานัด

 

สาวๆ อย่ามัวแต่ถ่ายรูปจนลืมดุนาฬิกานะคะ
ดูเวลาให้ดีว่าเค้านัดให้เข้าแถวกี่โมง ถ้าไปไม่ทัน
เค้าจะไม่ให้รับเอานะคะ

 

จำเลขที่ลำดับในการเข้าแถว เวลาและสถานที่ให้แม่นนะคะ

 

และของที่เตรียมเข้าไปด้วย ก็กระดาษทิชชู่และกระดาษซับมันซับ 2 แผ่น แนบๆ ไว้ที่ขอบกระโปรงหรือสอดไว้ในเสื้อตรงสะดือก็ได้ค่ะ

 

Carry out: 7 การนัดแนะจุดนัดพบกันช่างภาพและ Attendant

 

การเข้าหอประชุมในงานวันจริง ทางมหาวิทยาลัยจะไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปค่ะ
ถ้าแอบเอาเข้าไปอาจจะโดนลิบ แล้วต้องไปขอคืนอีก อาจจะมีการสลับเครื่องด้วยค่ะ เสี่ยงมาก
แล้วเดี๋ยวนี้ เค้าใช้เครื่องสแกนโลหะด้วยนะคะ
เพราะฉะนั้นให้นัดแนะเวลากับสถานที่ให้กับช่างภาพและ Attendant ให้ดีค่ะ เดี๋ยวจะคลาดกันได้

 

โดยให้ช่างภาพและ Attendant ไปรอบริเวณที่เราจะออกโดยกำหนดจุดให้เค้ายืนเลยค่ะ พอเห็นบัณฑิตทยอยออกมาแล้ว
ก็ให้เค้ารีบไปยืนรอเลยค่ะ

 

ทางที่ดีคือ ให้เรานำเศษตังค์ แบงค์ยี่สิบ (แล้วค่อยไปแลกที่จุดขายน้ำ) เผื่อคลาดกันจะได้หาทางโทรศัพท์ได้ค่ะ
โทรเข้าเบอร์ผู้ติดตามหรือเบอร์เราเองที่ฝากเครื่องไว้ก็ได้ค่ะ

 

Carry out: 8 Scene สุดท้ายของงานรับปริญญา

 

อย่าพลาดซีนนี้ค่ะ

 

ถ่ายคู่กับ ช่างภาพและAttendant คู่ใจค่ะ
ถ่ายกับของขวัญทั้งหมดที่เราได้มาถ่ายแัละกระเป๋าที่เราใส่ของ
ถ่ายกับประตูร่วมมหาวิทยาลัย
ถ่ายจังหวะสั่งลา ของเราในวันนี้

 

ใครมีซีนไหนเพิ่มอีกมั้ยคะ

 

 

Photo-shot by: Jan007′s atelier

เครื่องสำอางค์หาซื้อตาม เว็บไซต์ได้ค่ะ ลองเค้าไป search ดูที่ Weloveshopping.com ค่ะ

เรื่องแก้ไขโครงหน้า คิดว่าอ่านที่นี่ ค่ะ http://puyisme.multiply.com/photos/album/25/25
น่าจะตอบโจทย์ได้ ลองดูหัวข้อการทำ Shading ดูนะคะ

อีเมลพี่ puyisme@gmail.com

karn lee says:

ชอบการแต่งหน้าของพี่ปุ้ยมากๆเลยล่ะค่ะ หนูจะแต่งหน้ารับปริญญาเองเหมือนกัน
แต่ว่าไม่ค่อยรู้เรื่องเครื่องสำอางเท่าไหร่ จะขอถามพี่ปุ้ยได้มั้ยคะ
1 เครื่องสำอางที่พี่ใช้หาซื้อได้ที่ไหน อยู่แถวชลอะค่ะ แต่ไม่ทราบแหล่งขายเลย อย่างเช่นลิปของ MACอ่ะค่ะ
2 มีวิธีแก้ไขจุดบกพร้องของหน้ามั้ยคะ คือเป็นคนที่มีโหนกแก้มสูง และมีปีกจมูกใหญ่น่ะค่ะ

ขอบคุณพี่ปุ้ยมากค่ะ (จะขออีเมล์พี่ปุ้ยได้มั้ยคะ หากสงสัยจะได้ถามทางอีเมล์)

ละเอียดรัดกุมมั่กๆ * *
ขอบคุณนะคะ

สวัสดีค่ะ

ตามมาจากพันทิปครับ ^ ^

วันจริงเครียดมากค่ะ ยังไงก็สู้ๆ นะคะ

เยี่ยมเลย

กำลังจะรับปริญญาเดือนหน้าพอดีเลย ^^

MEE KUNG says:

เขียนได้ยอดเยี่ยมมากค่ะ

ขอบคุณค่ะ จุบ ๆ

MiND * says:

นึกถึงสมัยรับปริญญาตัวเองเรยอ่ะ 555

โอ๊ะ เด็ดมากค่ะ ไม่รู้ลืมไปได้ไงเนี่ย

น่าจะมีอีกอย่างคือ ตรงกันข้าม คนไหนที่ตามตื้อเราอยู่แล้วเราไม่ชอบ ต้องบอกตากล้องไว้ จาได้กดแค่รูปเดียวพอ หรือแกล้งกดไม่ติดไปเลย หะๆๆๆ

อ้อ จริงด้วย ยังไม่ได้ถ่ายกับน้องสร้อยเลย

บัณฑิตของผม (น้องสร้อย) ขอเบอร์ปุ้ยจากน้องเนยไว้แล้ว
หวังว่าวันจริงคงได้เจอกันนะครับ

Aon Hemmatad says:

ตามมาอ่านต่อค่ะ
แนะนำว่าถ้าจะได้ถ่ายรูปกับคนที่แอบชอบแอบปลื้มอยู่
ให้บอกตากล้องไว้ล่วงหน้าก็ดีนะคะ เผื่อน้องไม่อยากให้ target รู้
แล้วตากล้องก็จะได้กดรูปให้หลายๆใบด้วย :)

วันนี้อ้อนวิ่งตาม target น้องบัณฑิต เหนื่อยใช้ได้เลย ^ ^”

แต่เห็นน้องดีใจเราก็รู้สึกดีแล้วแหละค่ะ