ผมสวยๆ ของเราจะอยู่กับเราไปได้นานแค่ไหนกันนะ
สวัสดีค่ะสาวๆ ทุกคน
วันนี้ปุ้ยมาแบ่งปันเรื่องสวยๆ งามๆ อย่างเช่นเคย
แต่ว่าขอเปลี่ยนบรรยากาศจากเรื่องแต่งหน้าหรือแฟชั่นบ้าง
โดยจะมาเล่าให้สาวๆ ฟังเกี่ยวกับองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของความสวยนั่นก็คือ ผมของเรา นั่นเอง
แน่นอนว่าถ้าเราแต่งหน้า แต่งตัวสวย แต่ถ้าทรงผมของเราดูไม่ได้เรื่องเอาซะเลยหละก็
ความสวยของเราจะลดลงถึง 20 – 40% หรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้
ปุ้ยเองก็เป็นคนที่ใส่ใจกับเรื่องผมมาก แต่ก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะทำให้ผมของเราเงางามสลวยอยู่ได้ตลอด
เพราะว่ามีปัจจัยต่างๆ นานา ที่มาทำลายคุณภาพของเส้นผมของเรา เกินกว่าที่เราจะฟื้นฟูกลับมาได้ทัน
และก็เป็นคนหนึ่งที่ประสบ ปัญหาอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ เพราะโดยพื้นฐานแล้ว เส้นผมของปุ้ยเป็นผมเส้นใหญ่มาก
และมีปริมาณค่อนข้างหนา แล้วก็สภาพแย่ลงไปตามกาลเวลา
ปุ้ยเลยต้องตัดผม ต้องใส่วิก ต้องต่อผม แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไข และฟื้นฟูให้สุขภาพผมกลับมาเหมือนเดิมได้เลย ทำยังไงดีน๊าาาา
ปุ้ยไปอ่านเจอบทความจาก Dove Damage Therapy มาพอดี ปุ้ยก็เลยอยากจะบอกเล่า ให้สาวๆ ฟังกันว่า
ทำไม เส้นผมของเราจึงถูกทำร้าย เสื่อมสภาพและหยาบกระด้าง ไม่สวยเหมือนตอนที่เรายังเยาว์วัย
ซึ่งบางพฤติกรรมสาวๆ หลายคนก็ทราบดี
แต่ว่าบางทีเราก็ทำร้ายเส้นผมของเราโดยไม่ตั้งใจ ลองมาดูกันนะคะ ว่ามีอะไร บ้าง
2. เช็ดผมให้แห้งด้วยผ้าขนหนู
หลังสระผม
เรามักจะพยายามเช็ดผมให้แห้งที่สุด จะได้ไม่ต้องอาศัยความร้อนจากไดร์เป่าผมนานๆ
แต่จริงๆ แล้วการเช็ดผมจะทำให้เกล็ดผมเปิดหรือหลุดไปได้เหมือนกัน
ทำให้เกิดการสูญเสียโปรตีนได้ โดยเฉพาะคนที่มีสภาพผม
ไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิม ยิ่งไปกันใหญ่เลย
3. หวีผม มัดผม นั้นเป็นศัตรูเงียบของเส้นผม
คงเคยได้ยินความเชื่อที่ว่าการหวีผมทุกวัน วันละ 100 ครั้ง
จะทำให้ผมนุ่มสวยดุจใยไหม
แต่หากหวีบ่อยๆ
ก็จะกลายเป็นการทำร้ายเส้นผมอย่างรุนแรง
บวกกับเทรนด์รวบผมม้า หรือถักเปีย
ก็ทำให้ผมคุณจะถูกหนังยางรัดให้ผมหักงอ หลุดร่วง และเกล็ดผมเปิดได้โดยไม่รู้ตัวนะคะ
4. ใช้นิ้วสางผม เสยผม
ทุกครั้งเวลาคุณเสยผมแก้เขินเวลาไม่รู้จะทำอะไร หรือไม่ว่าเป็นการทึ้งผมส่งผลให้รากผมอ่อนแอลง
หลายคนจึงเคยประสบกับเหตุการณ์เสยผมแล้วเส้นผมหลุดติดมือมา ทำขายหน้าหนุ่มๆ ที่เดทด้วยมาแล้ว !!
5. ลมร้อนๆ จาก ไดร์เป่าผม เป็นมรสุมหน้าร้อนของฤดูผมเสียเลยนะ
เพราะความชื้นที่อยู่ในผมเดือดเป็นฟอง และแยกถ่างเกล็ดผมได้
แต่ถ้าไม่เป่าผมให้แห้งก็เสี่ยงต่อการเป็น หวัดได้ ง่ายๆ หลายคนจึงยอมเสียสุขภาพผมเพื่อรักษาสุขภาพกาย ไว้
6. หนีบผมทุกครั้ง ก็เหมือนหนีบโปรตีนออกจากเส้นผมทุกครา
เพราะต้องใช้ความร้อนที่อุณภูมิ 144 C เพื่อให้ผมเรียบ ความร้อนระดับนี้สามารถทำลายโครงสร้างโปรตีนของผม
สาวๆ เลยกลุ้มใจเพราะจะให้เลิกหนีบผมแล้วหัวฟูไปนอกบ้านก็ไม่ ไหว
7. ทำไฮไลท์ผม ได้ลุคเปรี้ยวขึ้น แต่เส้นผมซิคะน่าสงสารจัง
อย่าคิดว่าแค่ไฮไลท์บางจุดๆ คงไม่เป็นไร เพราะสารเคมีจะทำร้ายผิวด้านนอกของเส้นผม
และการที่สารเคมียึดเส้นผมแต่ละเส้นไว้ด้วยกันให้เข้าทรง จะเป็นการทำลายโครงสร้างโปรตีนภายในเช่น กัน
8. ย้อมผม ทำสีผม หน้าสว่างขึ้นจริงแต่เป็นยุคมืดของสุขภาพผม
ขอฝากข้อคิดให้สาวๆ ชั่งใจดูว่าทุกครั้งที่ย้อมสีผมจะทำให้เกล็ดผมเปิดกว้าง
และสารเคมีเหล่านั้นจะแทรกซึมเข้าไปทำร้ายถึงเนื้อผม (คอร์เทกซ์) ด้านใน
9. ยืดผมตรงเรียบสวย พร้อมได้รูพรุนในเส้นผมแถมมาด้วย
ถึงแม้จะได้ผมที่ตรงเรียบสวยไม่ต้องเสียเวลาเซ็ท ทุกเช้า
แต่สิ่งที่ต้องเสียไป คือ สุขภาพผม
เพราะน้ำยายืดผมจะทำลายชั้นของเกล็ดผม
ทำให้เกิดเป็นช่องว่างหรือรูพรุนผมจึงอ่อนแอและเปราะ บาง
10. ดัดผม แฮ็ปปี้กับลอนเด้งๆ ที่สุขภาพผมเจ๊งไม่เป็นท่า
ถือเป็นข้อต้องหาที่ร้ายแรงที่สุด
เนื่องจากสารเคมีในน้ำยาดัดผม จะแทรกซึมเข้าไปทำร้ายถึงเนื้อผม (คอร์เทกซ์) ด้านใน
เปรียบเสมือนเป็นการทำลายรากฐานของเส้นผมเลยทีเดียว
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญ ของโดฟ แดเมจ เธอราพี ต่างพร้อมใจกันยกให้เป็นการทำร้ายผมที่รุนแรงที่สุด
เห็นมั้ยคะสาวๆ พฤติกรรมบางอย่างที่เราไม่ได้ตั้งใจหรือไม่รู้ว่าเป็นการทำร้ายผมมีอยู่ มากมายเลย
ดังนั้น หลังจากวันนี้เราต้องระวัง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว เพื่อผมสวยๆ ของเราจะได้กลับมาอยู่กับเรานานๆ
แหมแต่บางครั้งเราก็อยากเสริม แต่งผมให้สวย ทั้งทำสี ไฮไลท์ ดัดผม โอย…สารพัด ทำยังไงดี
สุดท้ายนี้ ทาง Dove Damage Therapy เค้ากำลังรณรงค์ให้สาวๆ หันมาดูแลเอาใจใส่เส้นผมที่น่าสงสารของเรา
โดยเริ่มจากการมาร่วมสารภาพผิดพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผม กันก่อน
แถมผู้ที่ชวนเพื่อนๆ มาสารภาพผิดมากที่สุด จะได้บินไปสัมผัสประสบการณ์ Dove ที่อังกฤษด้วยนะ
น่าสนใจ ใช่มั้ยหละ ลองมาร่วมเล่นสนุกกันนะคะ ⟶ คลิ๊ก คลิ๊ก คลิ๊ก ⟵
และจากที่เห็นว่า Dove เค้าใส่ใจกับการดูแลเส้นผมของสาวๆ Reference: www.dovedamagerepair.com |
Arikatou krub ^^
รอดูของณิช
เริ่ดเหมือนเดิมน้า