Sexy Chic~!| Dolly| Glamorous| Smart| Rocky

เนื่องจากในเว็บจีบัน ให้สมาชิกเข้าร่วมสนุกกับการแต่งหน้าประชันกันทุกเดือนในหัวข้อต่างๆ สำหรับเดือน มกราที่ผ่านมา หัวข้อ Sexy Chic~ ปุ้ยเห็นแล้วก็อยากเล่นกับเค้าด้วยคน

คอนเซฟแต่งหน้าในลุคเซ็กซี่ๆ ในคราวนี้ อยากนำเสนอการแต่งหน้าแบบเซ็กซี่ในหลายๆ สไตล์ ด้วยการแต่งสีที่ไปในแนวทางเดียวกัน เครื่องสำอางเดียวกัน แต่ว่าเพิ่มเทคนิคที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย ก็จะได้สไตล์ที่ต่างกันออกมาค่ะ

มาเิ่ริ่มกันที่เครื่องสำอางที่ใช้ในแต่งหน้าคราวนี้กันก่อนเลย ดูรูปด้านล่างนะคะ

Model co // Face Base Skin Primer — เมกอัพเบสที่ใครๆ ก็ฮิตกัน เนื้อเจลใส ใช้แล้วหน้าลื่น ทำให้เกลี่ยรองพื้นง่าย ชอบมากๆ ใช้จะหมดแล้วอะ
Revlon // ColorStay Makeup with FoftFlex Combination/Oily Skin (180 Sand Beige) — รองพื้นอันนี้ก็โอเคนะ ทาแล้วไม่หนามาก ปกปิดเล็กน้อย
Oriental Princess // Beneficial Gel Cheeky — เป็นบรัชออนแบบเจล ปุ้ยใช้สีโอรสค่ะ ไว้ทาก่อนลงแป้ง ช่วยให้ทาบรัชออนสีติดทนขึ้น แต่ไม่แนะนำสำหรับคนที่ผิวมันนะคะ
Oriental Princess // Benetical Phenomenal Stop Age Concealer (01 Hideaway) — คอนซีลเลอร์ตัวนี้คอนปกปิดได้ดีระดับนึงค่ะ แต่ว่าเนื้อแห้งไปหน่อย ต้องใช้คู่กับครีม เพื่อให้เกี่ยง่ายและไม่เป็นคราบ
Skin Food // Banana Concealer Stick — คอนซีลเลอร์ตัวนี้ก็ปกปิดได้ดีค่ะ แต่ว่าเนื้อแห้งไปหน่อย ต้องใช้คู่กับครีม เพื่อให้เกี่ยง่ายและไม่เป็นคราบ ปุ้ยใช้คู่กับตัวบนอะ
Etude House// 66 Big Eye Multi Lighter — ไฮไลท์แบบแท่งมี 2 หัว ด้านนึงเนื้อแม็ทอีกด้านเนื้อแวววาว ตัวนี้กำลังเลิฟสุดๆ เลยค่ะ ใช้ดีทั้งสองด้าน แถมใช้ง่าย วาดๆ ป้ายๆ สวยได้ทันใจค่ะ
MTi // Sign Collection Base (Shading) — ตัวนี้ก็โอเคนะคะ ถึงจะเกลี่ยยาก แต่ก็เวิร์คได้ค่ะ
Natural Collection // Eye Shadow (Sea Shell) — สีเปลือกหอย เนื้อนุ่มเกลี่ยง่าย ปุ้ยเอาไว้ทำไฮไลท์หลังลงแป้ง
Palgantong Make-up // Theatrical Powder — เห็นหลายๆ คนในอินเตอร์เน็ตรีวิวตัวนี้ว่าดีมาก เลยไปซื้อมาลอง ก็ดีสมคำล่ำลือเลยค่ะ ทาแล้วน้องผ่องมากๆ ลงเยอะเท่าไรก็ดูไม่หนาอะ ช่วยกระจายแสง ทำให้มองไม่เห็นริ้วรอย
KATE // Powder Foundation Radiant Transparency and Ideal Coverage — แป้งผสมรองพื้นเนื้อบางเบาเรียบเนียน

Kate // Designing Eyebrow N (EX-5) — เซตเขียนคิ้วตัวนี้ ปุ้ยชอบมากเพราะมันมี 3 สี แล้วก็ติดทนมาก บางทียังเอามาทาที่ตาด้วยเลย อาจจะวาดยากนิดนึงเพราะสีไม่เข้มมากต้องวาดหลายรอบ ส่วนขนาดของเส้นก็ขึ้นกับแปรงที่ใช้ แปรงที่แถมมาด้วยไว้สำหรับเขียนเส้นเล็กๆ คมๆ หน่อย ถ้าแปรงยังไม่บานนะ ส่วนอีกด้วยใช้ทำเงาตรงหัวคิ้วพอดีเลยค่ะ

M.A.C // Eye Shadow / Persona Screen (VINYL) — อายชาโดว์สองสีขาวและดำเนื้อแมต แต่มีประกายวิ้งๆ นิดหน่อย สีติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่ แต่เอาไว้ทำสโมกกี้อายโอเคเลย
Etude House // Orgel Eyeshadow (04) — อายชาโดว์สีโทนชมพูเนื้อ ติดทนระดับป่นกลาง สีออกไม่เยอะ แต่ว่าวิ้งๆ เยอะมากๆ ค่ะ ทาแล้วได้ลุคแบบหวานๆ น่ารักๆ
Bloom // Sheer Color Cream (Glow) — อายชาโดว์เนื้อครีม เกลี่ยง่ายแต่ว่าทาแล้รู้สึกเหนอะนิดหน่อย แต่ว่ายอมให้อภัยเพราะความสวยของสีและความละเอียดของวิ้งมุขๆ
MAC Eye Shadow — อายชาโดว์แบบวิ้งๆ เยอะมากๆ ซื้อมาจากตลาดนัด ไม่ใช่ของปลอมนะคะ ดูจากชื่อยี่ห้อ แต่อาจจะเป็นของเลียนแบบ ชอบเพราะว่าสีสวยมาก สีชมพูประกายเงิน แต่ว่าทามากไม่ได้ เพราะว่าเนื้อมันเวลาแห้งแล้วแข็อะ อย่างกับเอากาวมาทาตา เลยเอาไว้ทำเป็นไลนเนอร์ดีกว่า ทาน้อยๆ สวยดีค่ะ

ขนตาปลอม ไม่ระบุยี่ห้อ — ได้มาจากเมื่อปีใหม่ไปแต่งหน้าที่คอนเตอร์ลาเนจ แล้วให้พี่เค้าติดให้ พี่เค้าหยิบมา ไอเราก็ไม่ได้ถามว่าย่อห้ออะไร แต่ว่า ขนมันไม่ใช่พลาสติก เป็นขนสงเคราะห์นิ่มๆ หนาๆ ไว้สืบรู้ยี่ห้อเมื่อไหร่จะมาบอกนะ
Kate // Gel eye liner (BK-1) — เจลเขียนขอบตาสีดำ เขียนง่ายดีค่ะ เนื้อนุ่ม แห้งไว กันน้ำ แต่ว่าล้างออกง่าย ข้อเสียนิดนึง คือ ที่อยู่ในกระปุกมันจับตัวเป็นก้อนง่ายอะ
Acceszo // กาวติดขนตา — เป็นกาวสีดำ ที่ฝามีพู่กัน ก็ติดแน่นดี แห้งไว แล้วก็แกะออกง่าย ลอกกาวออกง่าย ทำให้ขนตาใช้ซ้ำได้ ขอเสียคือ พู่กันมันแตกง่าย แล้วก็กาวในขวดมันแห้งง่าย ใช้ได้ไม่ทันหมดก็ต้องซื้อใหม่ค่ะ

Gino McCray // Blusher Banefique (02 Rosy Brown) — บรัชออนแบบฝุ่นผสมครีมสีชมพูโอรส มีประกายสีทอง

L’Oreal // Color Riche Fusion Lipstick — ลิปสีนู๊ดชมพูๆ (TAWNY 845) และสีชมพูพีช (PEACH FUZZ 417) ตัวเดียวกับที่ใช้ในฮาวทูลอรีอัลคราวที่แล้วเลย
PAUL&JOE // Lipstick (04 Rouge a Levres) — ลิปแดงเข้มมากๆ เรียกว่าแดงเลือดนกรึป่าวน๊า ได้มาจากอา เค้ายกให้ ปกติคงไม่คิดจะซื้อสีนี้มาทาแน่นอน แต่ก็เอามาประยุกต์ใช้ได้ค่ะ
แล้วสุดท้ายกลอสคู่ใจ Super Gloss // Essence in Lip (02) — กลอซสีชมพูนู๊ดๆ ไม่มีวิ้ง ติดทนนานเหมือนกันนะ ถ้าไม่ไปกินขนมซะก่อน

มาเริ่มกันเลยค่ะ

Step 01: Foundation (ลงรองพื้น) - Moisturize: ทาครีมบำรุงผิว เพื่อให้ความชุมชื่นก่อนนะคะ - Makeup Base: ทา Make up Base เพื่อให้การลงรองพื้นง่ายและเนียน ปุ้ยใช้ Model co บีบมาประมาณ 1 เม็ดถั่วแดง แต้มให้ทั่วแล้วก็ใช้นิ้วทั้ง 4 ลูบๆ คลึงๆ ให้ทั่วใบหน้านะคะ เสร็จแล้วหน้านิ่มๆ ลื่นๆ รอซักประมาณ 1 นาที - Foundation: ลงรองพื้น Revlon Tips: เทคนิคการลงรองพื้น คือ - เทรองพื้นลงบนฝ่ามือก่อน แล้วค่อยๆ ใช้นิ้วหรือฟองน้ำก็ได้ เกลี่ยลงที่ใบหน้าที่ละนิดๆ ค่อยๆ แตะ ค่อยๆ เกลี่ย (ไม่ควรป้ายรองพื้นที่ใบหน้าทั้งหมดก่อน ควรลงทีะนิดๆ) - ค่อยเกลี่ยจากหน้าฝาก ในทิศทางตามแนวเส้นขน ค่อยๆ เพิ่มปริมาณลงซ้ำๆ บริเวณที่ผิวหน้ามีปัญหา เชื่อ ริ้วรอย สิว แผลเป็น รอยดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ เมื่อเสร็จแล้วจะได้ใบหน้าที่เนียนกริบค่ะ - ส่วนการลงรองพื้นไม่ให้หนาเหมือนใส่หน้ากาก ก็คือ ลงเฉพาะบริเวณส่วนที่ผิวหน้ามีปัญหาและพื้นที่ในการลงรองพ้นให้เว้นระยะจากไรผมออกมาประมาณ 1-2 ซม. (ไม่ต้องลงทั้งหน้า นั่นเอง)

Step 02: Concealer, Highlight and Shading (ให้หน้าเนียนเรียบ ใส่แสงให้สว่างใสและเต็มเงาแก้ไขรูปหน้า) Step 02-1: Smooth Skin with Concealer การลงคอนซีลเลอร์เพื่อให้หน้าเนียนเรียบ ปกปิดอย่างมืออาชีพ Areas – ลงบริเวณใต้ตาเพื่อปิดรอยคล้ำ - ลงบริเวณหน้าผาก สันจมูกและคาง เพื่อปกปิดรอยสิวเสี้ยนนั้นเอง และทำให้หน้าดูเรียบเนียนขึ้นค่ะ - ลงบริเวณร่องข้างจมูก เพื่อปกปิดริ้วรอยแห่งวัย - และถ้าผิวเปลือกตาไม่เรียบเนียนก็ลงด้วยค่ะ - สุดท้าย รอยสิวและรอยแดง Tips: - ควรใช้พู่กันป้ายบริเวณที่ต้องการ แล้วให้แปรงสำหรับเกลี่ยคอนซีลเลอร์โดยเฉพาะจะได้ความเนียนกริบ แต่ถ้าไม่มี ให้ใช้นิ้วมือเนี่ยแหละ ค่อยๆ กดให้เนื้อครีมคอนซีลเลอร์กลืนเข้าไปกับผิวหน้า (กดเบาๆ และไม่ควรใช้นิ้วปาด จะทำให้เป็นคราบค่ะ) - ถ้ากรณีทาบริเวณสิว รอยแดง หรือจุด ให้แต้มทิ้งไว้ซักพักให้เนื้อครีมแห้งก่อน แล้วค่อยเกลี่ยรอบๆ ขอบให้กลืนกับผิวค่ะ

Step 02-2: Highlight and Shading การลงไฮไลท์ เพื่อเพิ่มแสงสว่างให้ในหน้า ทำให้ดูสดใส เปล่งปลั่งค่ะและการลงเฉดดิ้ง เพื่อแก้ไขรูปหน้า หรือว่าทำให้หน้าดูมีมิติค่ะ - Highlight: ปุ้ยใช้ Etude House// 66 Big Eye Multi Lighter ลงบริเวณหน้าผาก ใต้ตา สันจมูก โหนกคิ้ว ร่องข้างจมูก หัวตาทั้งสองข้าง และด้านบนริมผีปากบน เยอะใช่มั้ยหละ นับให้ครบนะคะ เสร็จแล้วรับรองสวยเด้ง รับประกันค่ะ Tips+ Point Makeup: ถ้าต้องการลุคที่เซ็กซี่ๆ จะลืมลงไฮไลท์ที่จุดสำคัญ 2 จุดไม่ได้เลยค่ะ นั่นก็คือ หัวตาทั้งสองข้าง เพื่อทำให้ดวงตาน่าดึงดู ดูมีสเน่ห์ และที่เหนือริมผีปากบนค่ะ ทำให้ปากดูอิ่มเอิบ เซ็กซี่ขึ้น - Shading: ใช้ MTi Shad ลงบริเวณข้างแก้ม กรอบหน้า สันจมูกด้านข้างและปีกจมูก Tips: บริเวณไหนที่อยากให้มันลดความกว้าง ความยาว ความสูง ตรงนั้นแหละ ลงเฉดดิ้งเข้าไปเลยค่ะ แต่อย่าลืมเกลี่ยให้เรียบและกลืนกับสีผิวบริเวณรอบๆ นะคะ เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะทึกทักเอาว่าเรามีปาน อะ - ส่วนน้ำหนักการลงให้เข้มกว่าสีผิวแบบเห็นได้ชัด ไม่ต้องกลัว เพราะเวลาลงแป้ง สีจะอ่อนลงเองค่ะ - Cheeky: เกลี่ย Oriental Princess // Gel Cheeky ที่แก้มเป็นวงกลมๆ และคางด้านล่าง หรือบริเวณที่จะปัดบรัชออน เพื่อให้สามารถลงบรัชได้ติดทนนานขึ้น Step 02-3: Loose Powder ปัดแป้งฝุ่นเพื่อลดความมันของใบหน้า - Loose Powder ของ Palgantong Make-up เพื่อลดความมันของใบหน้า และทำให้หน้าสว่างใสด้วยการกระจายแสงของกลิตเตอร์ที่ละเอียดๆ - Finnish Powder: ปุ้ยใช้ KATE // Powder Foundation โดยใช้พัฟเกลี่ยแบบกดๆ ทั่วหน้า ไม่ต้องลงหนามากนัก โดยกดๆ ลงบริเวณที่ต้องการปกปิด เหมือนว่าเก็บรายละเอียดที่ยังปิดไม่หมด   เสร็จแล้วจะได้ใบหน้าที่เรียบเนียน พร้อมลงสีสันกันแล้วค่ะ

Step 03: Eyebrow designing (เขียนคิ้วกันเถอะ) ขั้นตอนนี้ปุ้ยใช้ Designing Eyebrow ของ Kate และแปรงปัดคิ้วหัวตัดของ Chanel และ Gino McCray ค่ะ - Eyebrow: วาดเส้นคิ้วด้วยสีเข้มสุดตั้งแต่ตาดำด้านในจนถึงหางคิ้ว ใช้แปรงของ Chanel ที่ขนแข็งๆ หน่อย จะได้เส้นที่คมแบบธรรมชาติค่ะ - Shadow Eyebrow: เบลนด์สีกลาง บริเวณหัวคิ้ว ด้วยแปรง Gino McCray - Shadow Nose: ใช้สีอ่อนสุดทำเงาบริเวณหัวคิ้วลงมาจนถึงสันจมูกและปีกจมูก ด้วยแปรงหัวบัวของ Kate ที่แถมมาในตลับ - Check point: ใช้คอตตอนบัดลบคิ้วสวยเกินที่อาจจะลากเลยหรือเลอะออก เสร็จแล้วจะได้คิ้วที่สวยงามและจมูกที่นูนได้รูปขึ้น

ต่อมาเป็น Point Makeup ขั้นตอนสำคัญของเราแล้วค่ะ

Step 04: Eye Color (สีสันแห่งดวงตา) - Heighten Eye: Eye Shadow แบบฝุ่นด้านสีขาวของ M.A.C ใช้พู่กันปัดบริเวณโหนกคิ้ว เพื่อทำ Highlight - Apply Eye Base: Bloom // Sheer Color Cream ใช้นิ้วเกลี่ยลงไป 80% ของเปลือกตา เพื่อเป็นอายเบสให้สีติดง่ายขึ้น - Apply Pink: Etude House // Orgel Eyeshadow ใช้พู่กันแตะสีชมพูตรงกลาง ปัดให้ทั่วเปลือกตาบน จนถึงโหนกคิ้วเลย - Blend Gray: Eye Shadow M.A.C ใช้พู่กันแตะด้านสีเทาเข้ม มาเบลนด์บริเวณหางตาทั้งบนและล่างเป็นเครื่องหมาย > และ < ให้ชิดขอบตามากที่สุด - Line Glitter: ใช้กลิตเตอร์ตลาดนัด วาดเส้นให้ชิดขอบตาที่สุด ลากยาวจากหางตาประมาณ 1 ชม. และตวัดหางขึ้นเล็กน้อย - Line Black: เขียนอายไลน์เนอร์ สีดำ ให้ดวดาดูมีเสน่ห์ ปุ้ยใช้ Kate // Gel Liner ใช้พู่กันเขียนชิดแนวขนตาและลากยาวเลยหางตาออกไปครึ่งซม. ตวัดหางขึ้นเล็กน้อย Tips: – ความสวยคมของเส้นขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ควรฝึกวาดบนกระดาษบ่อยๆ ให้ชำนาญ - ถ้ายังไม่ชำนาญควรใช้ไลน์เนอร์ประเภทดินสอ เพราะว่า ลบออกง่าย เมื่อเขียนผิดพลาด - แต่ถ้าต้องการให้เส้นคมกริบ ควรใช้ประเภทน้ำหรือเมจิก ส่วนเส้นที่นุ่มนวลใช้ประเภทเจล - คนที่ชำนาญมักใช้ประเภทน้ำหรือเจล เพราะว่าสะดวกรวดเร็ว - ส่วนมืออาชีพมักใช้แบบดินสอ เพราะว่า เหมาะกับงานที่ประณีต ควบคุมทิศทาง ความหนาได้ง่ายและดัดแปลงได้หลากหลายกว่า

Step 05: Attractive Eyelash (ติดขนตาให้ยั้วยวน) หลังจากดัดขนตาและปัดมาสคาร่าก่อนแล้ว (ควรดัดขนตาและปัดมาสคาร่าก่อนทุกครั้งที่ติดขนตาปลอม ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะมีขนตา 2 ชั้น) และวัดขนาดความยาวของขนตาปลอมให้พอดีกับดวงตาของเรานะคะ ถ้ายาวเกินก็ตัดตกแต่งให้เรียบร้อย - Glue the Fake Eyelash: ใช้กาวสำหรับติดขนตาปลอมโดยเฉพาะ รอประมาณ ครึ่งนาทีให้กาวแห้ง - Stick the Fake Eyelash on your Eyelash: ทีนี้เราก็นำขนตามาวางลงบนขอบตาเริ่มจาก เริ่มจากวางมุมนึงลงที่หัวตาก่อน แล้วค่อยๆวางลงจดหมดค่ะ Tips: - เคล็ดลับการติดขนตาปลอม คือใช้กาวเฉพาะสำหรับติดขนตาที่มีความเหนียว แต่แห้งไว และไม่แห้งจนเกินไป นอกจากจะทำให้การติดง่ายดายขึ้นเยอะแล้ว ยังแกะออกง่าย ไม่แห้งจนรำคาญว่ามีอะไรหนักๆ มาอยู่บนตาตลอดเวลา

Step 06: Cheeky (เติมสีสันให้แก้ม) - Bush on Pink: ปัดแก้มด้วยสีชมพู ของ Gino McCray ปัดเป็นวงกลม ไกล่เฉียงไปที่โหนกแก้มเล็กน้อย - Brighten Under-Eye: ใช้ Natural Collection // Eye Shadow (Sea Shell) ใช้พู่กันหัวใหญ่ๆ ปัดใต้ตาลงมาถึงกลางแก้มเป็นสามเหลี่ยมคว่ำ และปัดบริเวณหน้าผาก สันจมูกและคางด้วย               Step 07: Lip Stick (สีสันของเรียวปาก) ปุ้ยใช้ L’Oreal // Color Riche Fusion สีชมพูพีช PEACH FUZZ (417) Tips: - การทาลิปสติกให้สีติดทน เมื่อลงสีทั่วเรียกปากแล้ว ใช้กระดาษทิชชุเม้ม 1 ที แล้วใช้พัฟแตะแป้งฝุ่นเล็กน้อย ตบๆ เบาๆ ที่ริมฝีปาก จากนั้นลงสีซ้ำอีกรอบค่ะ

เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอเรียกลุคแบบบนี้ว่า Dolly Sexy ละกันค่ะ

ไปทำผมและแต่งตัวให้เซ็กซี่กันเถอะ
ผมม้วนเนี่ยแหละดูเซ็กซี่ยิ่งนัก ปุ้ยใช้ babyliss paris รางวัลพิเศษที่คุณน้องแป๊ะ (shushiboy69) ให้มาเมื่อประกวดแม่นางหวานเย็นเดือนพฤศจิกา ได้ฤกษ์ใช้แล้วค่ะ แต่ไม่มีฮาวทูนะ ติดไว้ก่อนๆ

Review babyliss Paris ที่ม้วนผมตัวนี้ดีมากๆ เพราะว่าเสียบปลั๊กปุ๊บ รอไม่ถึง 1 นาที ก็ร้อนให้ได้ใช้แล้วค่ะ แถมยังปรับอุณหภูมิได้ด้วย ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีอีกเช่นกัน เราก็จะได้อุณหภูมิที่เราต้องการเลย เยี่ยมจริงๆ ทำให้การทำผมของเราลดเวลาลงได้เยอะมากเลยค่ะ

ฮาวทู Sexy Chic~! ยังไม่ได้จบลงแต่เพียงเท่านี้นะคะ

อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า จะเซ็กซี่หลายๆ สไตล์ ดังนั้นถ้ายังไม่เหนื่อยกัน เรามาสวยกันต่อเลยนะคะ จากเครื่องสำอาง แค่ 3 ชิ้นนี้ จะทำให้ปุ้ยเปลี่ยนลุค ได้อีก 3 ลุค คอยจับตาดูให้ดีค่ะ

Extended Steps to Glamorous Sexy Look

Point: ลุคนี้เป็นเซ็กซี่แบบสาวหวานๆ ดังนั้นเราจะเบลนด์ดวงตาให้ดูมีมิติ ดูเป็นสาวมากขึ้น การเบลนด์บริเวณเบ้าตาและหางตา ทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์ เย้ายวน หยาดเยิ้ม …
- Blend Gray on Eyehole: Eye Shadow M.A.C ใช้พู่กันแตะด้านสีเทาเข้ม มาเบลนด์บริเวณเบ้าตา หรือเรียกว่า “คัดเบ้า” นั้นเอง (คำศัพท์นี้ได้มาจากคุณกมลตอนที่ไปเวิร์คชอพของลอรีอัล)
- Apply Glitter: ใช้กลิตเตอร์ตลาดนัดลงเพิ่มบริเวณเปลือกตาตั้งแต่ขอบตาจนถึงเบ้าตา (40% ของเปลือกตา)
- Blend Gray on Under-Eyelid: Eye Shadow M.A.C ใช้พู่กันแตะด้านสีเทาเข้ม มาเบลนด์บริเวณเปลือกตาล่างหน้าประมาณ ครึ่งชม. ลากตั้งแต่หางตา จนถึง กึ่งกลางตาดำ ค่ะ
- Nude Pink Lip: ทาลิปติก สีชมพูนู๊ด L’Oreal (TAWNY 845) ปากสีนู๊ดดูเซ็กซี่เหมาะกับลุคนี้เลยค่ะ
ดูเอา

Extended Steps to Smart Sexy Look

Point: ลุคนี้เป็นเซ็กซี่แบบสาวเนี๊ยบ ดูมั่นใจๆ ดังนั้นเราจะเบลนด์ดวงตาสโมกกี้อายแบบเบาๆ ทำให้ดวงตาดูมาดมั่น แต่ยังแฝงด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล
- Blend Gray over 80% Eyeful: Eye Shadow M.A.C ใช้พู่กันแตะด้านสีเทาเข้ม มาเบลนด์บริเวณทั่วเบ้าตา ตั้งแต่หางตาจนถึง 80% ของเบ้าตา เว้นบริเวณหัวตาเอาไว้ จะได้ลุคแบบสโมกกี้อายแบบเบาๆ ค่ะ
- Line Black under Eye: ใช้ Kate Gel Liner วาดขอบตาล่างจากหางตาจนถึงแนวตาดำด้านใน แต่ยังไม่ถึงหัวตานะคะ จะได้ลุคแบบมั่นๆ แต่ไม่ดุจนเกินไปค่ะ
- Blend More Gray on Under-Eyelid: Eye Shadow M.A.C ใช้พู่กันแตะด้านสีเทาเข้ม มาเบลนด์บริเวณเปลือกตาล่างหน้าประมาณ ครึ่งชม. ทีนี้ลากตั้งแต่หางตา จนถึงตาดำด้านในเหมือนที่วาดไลเนอร์ค่ะ
- Red Lip: ใช้ PAUL&JOE // Lipstick (04 Rouge a Levres) สีแดงเข้มทาด้านในของปาก ค่ะ

เสร็จแล้วๆ

Extended Steps to Rocky Sexy Look

Point: ลุคนี้เป็นเซ็กซี่แบบสาวร๊อค ดูดุดัน โหดเล็กน้อย แต่ยังไงๆ ก็ยังไงผู้หญิงก็ต้องเซ็กซี่เนอะ ดังนั้นเราจะทาดวงตาสโมกกี้อายแบบเต็มสตรีมเลยค่ะ แต่ยังแฝงความเซ็กซี่ไว้ที่เรียวปากด้วยเสน่ห์ของสีนู๊ดวาวๆ
- Blend more Gray over Eyeful: Eye Shadow M.A.C ใช้พู่กันแตะด้านสีเทาเข้ม มาเบลนด์บริเวณทั่วเบ้าตา เลยค่ะ จะได้ลุคแบบสโมกกี้อายเต็มสตรีม
- Line Very Thick: ใช้ Kate Gel Liner วาดขอบตาให้หนาขึ้นอีก
- Full Line Black Under-Eye: ทีนี้ใช้ Kate Gel Liner วาดขอบตาด้านล่างให้ยาวจนถึงหัวตาเลย
- Nude Lip: ลงคอนซีลเลอร์ Skin Food // Banana Concealer Stick ให้ทั่วปาก ปิดสีให้หมดเลยค่ะ
แล้วทาลิปติกสีชมพูนู๊ด L’Oreal (TAWNY 845) แค่ความยาว 70% ของเรียวปาก สุดท้ายลงกลอส ของ Super Gloss เฉพาะกึ่งกลางปาก ค่ะ

หมดแล้วแหละค่ะ
ทีนี้มาลองเทียบทั้ง 4 ลุคกันดีกว่า

ถ้าอยากดูรูปชัดๆ ก็กดที่รูปเลยค่ะ

ถ้ารูปไม่ขึ้นลองเข้าไปดูที่ http://www.slide.com/r/278NNRb35j-pD5XeehIj-qL7LOo6TW8I นะคะ
มีพิมพ์ผิดบางที่ในรูปภาพ ขออภัยด้วยค่ะ

ขอขอบคุณทุกคำติชม ล่วงหน้า และจะมาตอบทุกข้อสงสัยนะคะ