My passion, All beautiful things and any nice concern share the world beauty by puy ~ is me

LolliPops Art — by PuY'

หวัดดีค่ะ ปุ้ยมาแล้วค่า

คราวนี้ส่งการบ้านไม่สายนะคะ

 

ในฤดูที่เปลี่ยนแปลงกึ่งร้อนกึ่งฝนบรรยากาศเหงาๆ หงอยๆ อย่างงี้

ปุ้ยมาช่วยให้เพื่อนๆ มาคลายเหงา

เพิ่มสีสัน ความสนุกสนานด้วยอมยิ้มแสนหวานที่ซ่อนความเปรี้ยวเล็กๆ น้อยๆ กันดีกว่าค่ะ

 

 

 

แต่งหน้าคนอื่นมาหลายคนละ สนุกดีนะ กลับมาแต่งหน้าตัวเองเบื่อเล็กน้อย

แต่ก็ตามคำเรียกร้อง ปุ้ยทำให้เพื่อนๆ ได้อยู่แล้วสบายมากค่ะ

 

เดือนนี้ว่าด้วย MAY 2008 How to contest //Let’s Pop Artกับสีสดใสๆ อย่างเขียว เหลือง ม่วง

ในแนวน่ารักๆ แอบเปรี้ยวเล็กน้อยกับปุ้ยใน

 

The Concept of _LolliPops Art ~by PuY_

 

 

 

 

Model co // Face Base Skin Primer

 

Lunasol // WATER CREAM FOUNDATION (OC2

 

Laura mercier// Secret Camouflage

 

Oriental Princess // Benetical Phenomenal Stop Age Concealer (01 Hideaway)

 

red earth // ALL ROUND CONCEALER cache-cernes (MS001)

 

MTi // Sign Collection Base (Shading)

 

Za // Tinted Moisturizer (30)

 

Laura mercier // Secret Brightening Powder

 

Fasio // eyebrow mascara waterproof (322 Golden Brown)

 

red earth // ABSOLUTE BROWS Brow Perfecting Kit (BLONDE)

 

Nars // Single Eyeshadow (Abyssinnia)

 

Sivania // Colour Land Eye Shadow

 

Gino McCray // Color Philosophy (Green)

 

red earth // STYLE LINE Cream Eyeliner Palette (MYSTIC TWILIGHT)

 

MAYBELLINE // VOLUM EXPRESS HYPERCURL (BROWN)

 

NARS // Bronzing Powder (Laguna)

 

Etude House// 66 Big Eye Multi Lighter

 

Botanics // Stick Concealed

 

The Body Shop // PRESSED FACE POWDER (Peel)

 

Etude House// 55 Kissful Tint Chou (04)

 

KMA // natural complexion Extra moisture ( Orange)

 

 

 

ตาม Concept LolliPops Artปุ้ยจะแต่งหน้าโดยเน้นความเนียนใสของใบหน้าและเติมสีสันให้โดดเด่นที่ดวงตา

โดยใช้ กราฟฟิกรูปวงกลม (Circle Shape) เป็นตัวแทนของอมยิ้มที่แสนน่ารัก

เพื่อเปลี่ยนแนวจากการเล่นกราฟฟิกแบบลายเส้นและเลเยอร์ของสีอย่างที่เห็นกันบ่อยแล้ว

ด้วยความอ่อนหวานของอมยิ้มรูปวงกลมกับสีสันที่เปรี้ยวแอบซ่า

ปุ้ยหวังว่าจะทำให้เพื่อนๆ หายเหงากันบ้างนะคะ

 

 

 

 

เริ่มจากวิเคราะห์ใบหน้ากันก่อน

 

จุดบกพร่องที่ต้องแก้ไข

 

1) สิวขึ้นค่ะ ร้อยวันพันปีไม่เคยขึ้น แต่ก็ดีใจที่มาขึ้นเอาช่วงทำฮาวทูพอดี

จะได้แสดงวิธีปกปิดสิวให้เพื่อนๆ ได้ดูกันค่ะ

 

2) รอย กระจางๆ และขี้แมงวันกระจายเต็มหน้า คราวนี้ต้องรองพื้นให้เนียนแบบ Faultless Foundation ค่ะ จะได้หน้าเนียนใสใส เหมือนสาวเกาหลี

 

3) คิ้วก็ไม่ค่อยมีเอาซะเลย คราวนี้อยากแต่งแนวเกาหลี เลยต้องเขียนคิ้วให้ดูหนาขึ้น แต่ไม่เข้มเพราะอยากให้ดูออกมาหวานๆ หน่อยค่ะ

 

4) โหนกแก้มที่สูงขึ้นๆ ตามอายุ

ก็ต้องโบกเฉดดิ้งลบซะหน่อย หน้าจะได้ดูเด็กลงอีก

 

จมูกก็ไม่ได้รูปเอาซะเลย เดี๋ยวจะเฉดดิ้ง ไฮไลท์ดั้งกันไปเลยค่ะ

 

ส่วนจุดเด่นที่ดีอยู่แล้ว

 

สีผิวค่ะ ผิวปุ้ยออกขาวตรงกับคอนเซพอยู่แล้วไม่ต้องแก้ไขอะไรเลย

เพียงแค่ใช้ไอเมช่วยกระจายแสงเพิ่มเท่านั้น

 

รูปร่างตา หมวยอยู่แล้วไม่ต้องแต่งเสริมเติมอะไร

 

รูปหน้า ก็ไม่ต้องแก้ไขอะไร เพียงแค่เน้นไฮไลท์เฉดดิ้ง

ให้หน้าดูมีมิติขึ้นมาเท่านั้นค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วิเคราะห์ใบหน้าเสร็จแล้ว เราก็มาเริ่มแต่งตามคอนเซพกันเลยค่ะ

 

 

Step 01: Faultless Foundation เติมแต่งสีผิวหน้าให้เรียบเนียนขาวเพื่อให้เราได้เน้นพอยท์เมกอัพที่ดวงตานั้นดูเด่นที่สุด

ขั้นตอนนี้จะปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลบริ้วรอย รอยสิว รอยกระ ขี้แมลงวัน แผลเป็น เพื่อให้ผิวหน้าเนียนกริบ แต่ไม่เพลนจนเกินไปด้วยการเล่นไฮไลท์เฉดดิ้งให้หน้ามีมิติค่ะ

 

 

01-01 –Makeup Base:

ทา Model co // Face Base Skin Primer เมกอัพเบส เนื้อเจลใส ใช้แล้วหน้าลื่น

ทำให้เกลี่ยรองพื้นง่าย ชอบมากๆ นี่เป็นหลอดที่ 2 ที่ซื้อมาใช้แล้วค่ะ

บีบมาประมาณ 1 เม็ดถั่วแดง

| แต้มให้ทั่วแล้วก็ใช้นิ้วทั้ง 4 ลูบๆ คลึงๆ ให้ทั่วใบหน้านะคะ | เสร็จแล้วหน้านิ่มๆ ลื่นๆ รอซักประมาณ 1 นาที

 

01-02 – Spot Concealer: ใช้คอนซีลเลอร์ Laura mercier// Secret Camouflage (เบอร์ SC-2 และ SC-4)

ที่มีลักษณะเนื้อครีมที่เข้มข้นปกปิดได้ดีและเนื้อค่อนข้างแห้ง เหมาะกับปกปิดรอยสิว รอยดำ ได้ดีเยี่ยมเลยค่ะ

เลือกแปรงทาคอนซีเลอร์ขนแน่นๆ หัวเล็กอย่างแปรงของ RMK หรือ TBS หรือปรงหัวเล็กๆ ที่แถมมากับคอนซีลเลอร์ของ OP

| แตะสีอ่อนของ ทั้ง 2 เบอร์ในรูป

| เอามาผสมกันบนหลังมือก่อน (เทคนิคนี้บีเอของ LM ที่ CTW แนะนำมาค่ะ)

ผสมจนใกล้เคียงกับสีผิวของเราที่สุดหรือสีผิวหลังจากแต่งหน้าเสร็จแล้ว

| แล้วเอาแปรงแต้มคอนซีลเลอร์ตามรอยสิว รอยกระ ขี้แมลงวัน แผลเป็น

| รอซัก 2-3 นาทีรอให้ครีมแห้งแล้วใช้แปรงเกลี่ยๆ เบลนๆ เนื้อครีมตรงขอบๆ กลืนไปกับผิวค่ะ

 

 

01-03 – Secret Foundation:

ใช้ Lunasol // WATER CREAM FOUNDATION (OC2) ที่ช่วยให้หน้าเนียนผ่องและดูกระจ่างใสขึ้น ชอบมากจริงๆ

และ Red Earth // Secret Potion (Peel) ด้วยเม็ดวิ้งๆ ที่หนาแน่นและสีสวยวิ้งสีเนื้อเนียนเป็นธรรมชาติ

ช่วยให้เพิ่มความกระจ่างให้กับใบหน้าแบบดับเบิ้ลๆ กันไปเลยค่ะ

| เททั้ง 2 อย่างผสมกันลงบนฝ่ามือ ใช้แปรงทารองพื้นวนๆ ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน

 

| จากนั้นก็ค่อยๆ แต้มๆ ปาดๆ เกลี่ยๆ ให้ทั่วใบหน้าค่ะ ระวังคอนซีลเลอร์ที่ลงไปแล้ว จะหลุดหายไปหมดนะคะ

 

| แล้วใช้มือกดๆ ให้รองพื้นเนียนและซึมเข้าสู้ผิวค่ะ

 

 

 

 

 

 

01-04 – Under eye Lighten:

ใช้ Oriental Princess // Benetical Phenomenal Stop Age Concealer ที่ราคาและคุณภาพถูกใจมากๆ

ด้วยเนื้อครีมที่เข้มข้นแต่ว่านุ๊มนุ่ม เหมาะกับปกปิดใต้ตาเป็นที่สุดค่ะ ไม่ยาอกจะบอกว่านี่ใช้มา 3 ตลับแล้วอะ

 

และเลือกแปรงที่ป้ายเนื้อครีมได้ค่อยข้างหนาหน่อยอย่างแปรงของ RMK ก็ได้

 

| ใช้แปรงป้ายคอนซีลเลอร์สีกลางลงบริเวณใต้ตาและข้างร่องจมูก

|รอให้คอนซีลเลอร์เกือบแห้ง สังเกตจาก ถ้าเอานิ้วกดแล้วเนื้อคอนซีลเลอร์ไม่เยิ้มติดกับนิ้วมา

|แล้วค่อยๆ กดให้เนื้อครีมคอนซีลเลอร์กลืนเข้าไปกับผิวหน้า

(กดเบาๆ และไม่ควรใช้นิ้วปาด จะทำให้เป็นคราบค่ะ)

 

 

01-05 – Highlight: ใช้ red earth // ALL ROUND CONCEALER cache-cernes

และเลือกใช้แปรงป้ายคอนซีลเลอร์ที่ป้ายได้เนื้อบางๆ

และเป็นวงกว้างๆ อย่างแปรงของ read earthเอง

| ป้ายคอนซีลเลอร์สีเหลืองลงบริเวณ หน้าผาก ข้างร่องจมูก และคาง

แล้วกลับมาค่อยๆ กดให้เนื้อครีมคอนซีลเลอร์กลืนเข้าไปกับผิวค่ะ

 

 

 

 

01-06 – Shading: ใช้ MTi Shad ผสมกับ Za // Tinted Moisturizer

ทำไมต้องใช้ 2 อันผสมกันอะเหรอคะ เพราะว่า MTi Shad มันเนื้อเหนียวเกลี่ยยากมาก

และเนื้อมันเข้าคู่กับ Tinted ZA เข้ากันได้เป็นเนื้อเดียวและสียังคงเข้มพอจะเฉดได้สบายๆ

เคยลองผสมกับครีมบำรุงผิวแบบอื่น เนื้อไม่ค่อยเข้ากัน ตัวนี้แหละโอเคเหมาะกับสุดๆ แล้วค่ะ

 | ผสม 2 ตัวลงบนฝ่ามือแล้วใช้นิ้วเกลี่ยลงบริเวณข้างแก้ม กราม สันจมูกด้านข้างและปีกจมูก

 

 

เสร็จแล้ว โชว์ใบหน้าหลังรองรองพื้นธรรมดาๆ เสร็จในขั้นตอน 01-03 ทางซ้ายมือ

และรูปหลังลองไฮไลท์เฉดดิ้งเสร็จตามในขั้นตอน01-06

จะสังเกตเห็นได้ว่า จากใบหน้าเพลนๆ ขาวๆ กลายเป็นใบหน้าที่ดูมีมิติขึ้นเยอะเลยค่ะ

 

 

 

 

ต่อด้วยขั้นตอนสุดท้ายของการลงรองพื้นค่ะ

 

01-07 – Loose Powder:

ใช้แป้งฝุ่นเพื่อลดความมันของครีมที่ทาลองใบหน้าทั้งหมด แต่เราจะไม่ใช้ปริมาณแป้งเยอะค่ะ

เพราะว่าจะทำให้หน้าดูหนาเป็นคราบ และที่สำคัญสีที่ลงไว้จะเพี้ยนไปหมดค่ะ

| ใช้ Laura mercier // Secret Brightening Powder

ด้วยเม็ดแป้งที่ละเอียดจะช่วยเซ็ทคอนซีลเลอร์ที่ลงไว้ให้อยู่ตัว และไม่ทำให้เป็นคราบค่ะ

| โดยเทแป้งลงบนฝาแล้วเอาพัฟแตะ | จากนั้นตบแป้งให้บางเบาโดยตบลงบนหลังมือก่อน

| แล้วค่อยกดพัฟซับความมันบนใบหน้า

 

 

Step 02:Absolute Thick Eyebrow แต่งคราวนี้ให้คิ้วหนาๆ แบบสาวเกาหลีให้เข้ากับลุคค่ะ

 

02- 01 – Eyebrow Mascara: ใช้ Fasio eyebrow mascara สี Light Brown

ปุ้ยชอบสีนี้มาก ดูไม่อ่อนเกินไปไม่เข็มเกินไปค่ะ และขนาดของหัวแปรงก็เล็กกำลังดี

 

ปัดเพื่อเติมช่องว่างระหว่างขนคิ้วให้คิ้วได้รูปและมีความหนาขึ้นมาหน่อย

 

 

02- 02 – Absolute Brow:

ใช้ red earth Brow Perfecting Kit สีอ่อนสวย เนื้อแป้งนิ่ม แต่ก็ติดทนอยู่นะ

 

| ใช้แปรงหัวตัดแตะสีกลาง แล้ววาดหางคิ้วและตัวคิ้วทับที่ใช้มาสคาร่าคิ้ววาดเอาไว้แล้ว

| ใช้แปรงหัวมนๆ แตะสีอ่อนสุดเติมหัวคิ้วให้เต็ม และเฉดดิ้งด้านข้างปีกจมูก

 

 

 

Step 03: Lollipop Eye ว่าด้วยพอยท์เมกอัพของการแต่งตาคราวนี้คือ

 

 

อมยิ้มหวานๆ อมเปรี้ยว 3 สี เหลือง เขียว ม่วง มาป๊อปอัพอยู่บนตาหมวยๆ

ของสาวป๊อปแอบเปรี้ยว มาดูกันเลยค่

02- 01 – Eye Highlight:

ใช้อายชาโดวสี Abyssinnia สีขาวๆ มาลงให้ทั่วเปลือกตา และไฮไลท์บริเวณโหนกคิ้ว

02- 02 – Yellow Lollipop:

ใช้อายชาโดวสีเหลืองจากพาเลตของ Sivania ลงทั่วเปลือกตาบนและล่างด้วยค่ะ

 

02- 03 – Green Popup:ใช้อายชาโดวเนื้อครีมสีเขียวอ่อนแป้นแล้นๆ

จากแท่งของ Gino McCray วนเป็นวงกลอมๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 ซม.

โดยให้จุดศูนย์กลางอยู่ตรงหางตาพอดีค่ะ

ต่อไปก็เอาวงกลมเล็กๆ ไปวางไว้ตรงหัวตาค่ะน่ารักใช่มี้ยหละ

อายชาโดวเนื้อครีมตัวนี้ เนื้อร่วนไปนิดนึงนะ ทายากอะ

ทาแล้วไม่ค่อยเนียน แต่ว่าสีสันมันน่ารักโดนใจค่ะ

 

02- 04 – Little Purple:

ใช้แปรงแตะๆ ลิปแคร์ของ Blistex ไว้ตรงตำแหน่งปลายตาดำบริเวณเปลือกตาล่าง

เพื่อเตรียมพื้นที่ที่จะเอากริตเตอร์มาลง

จากนั้นใช้ กริตเตอร์สีม่วงวิ้งๆ ของ Gino McCray

แตะลงบนรอยลิปแคร์ที่เรามาร์คตำแหน่งไว้แล้วค่ะ สีสวยมากค่ะ

 

 

02- 05 – Yellow Pellet:

ประยุกต์ใช้เม็ดกลมๆ เล็กๆ ที่สาวๆ gal เค้าเอาไว้ตกแต่งเล็บกันอะค่ะ

เอามาวางไว้ตรงหางตา ตรงจุดศูนย์กลางของวงกลมสีเขียวนั้นแหละค่ะ

 

 

Step 04: Korea Thin Eyeliner

ขั้นตอนนี้ใช้ red earth STYLE LINE Cream Eyeliner Palette

 

โดยใช้สีดำวาดอายไลน์เนอร์บางๆ จากหัวตาจนถึงหางตา ไม่ต้องตวัดหางใดๆ ทั้งสิ้นเลยค่ะ

 

  วาดเพื่อให้เห็นเส้นตาชัดขึ้นมาเท่านั้นเอง ด้วยเหตุที่ว่าหมวยเกิ๊นไป

 

 

 

 

Step 05:Asian Eyelash

ขั้นตอนนี้พูดถึงขนตาค่ะ เอาแบบไม่ต้องหนา ดกดำยาว เอาแค่พอให้มีกะเข้าบ้างเท่านั้นก็พอค่ะ

 

| ดัดขนตาให้เรียบร้อย | แล้วใช้มาสคาร่า MAYBELLINE VOLUM EXPRESS สีดำปัดขนตา

 

 

| จากนั้นใช้ที่ดัดขนตาไฟฟ้าดัดซ้ำ เพราะว่าขนตาของปุ้ยดื้อมากค่ะ ใช้ที่ดัดธรรมดามันไม่ยอม

(ที่ดัดขนตาอันนี้ได้มาจากเพื่อนที่ไปญี่ปุ่นค่ะ อันละ 300 นิดๆ เอง

ใครมีโอกาสซื้อก็น่าจะลองนะคะ ดีมากๆ เลย)

 

จากนั้นใช้ขนตาปลอมที่ซื้อจากประตูน้ำ สีดำ ขายาวๆ ไม่หนา

 

 

| ตัดปลายออกให้ความยาวพอดีกับตา ติดลงไปๆ ที่ขนตาบน

โดยกดระนาบให้ขนตาไม่กระดกมาก

เพราะอยากให้ออกมาดูธรรมชาติไม่เอาแบ๊วตาโตจนเกิดเหตุค่ะ

(ใช้กาวของคุณลุง shuuemura กาวเบามาก แห้งไวมาก แห้งแล้วไม่มีสี ติดง่าย ดึงออกง่าย)

|และเอาเศษที่ตัดออกมาเมื่อกี๊นี้ แบ่งครึ่ง แล้วติด ไปตรงขนตาล่าง 2 หย่อมน้อยๆ ค่ะ

 

 

 

 

Step 06 – Loose Setting:

หลังจากที่ลงพอยท์เมกอัพซักพัก หน้าจะเริ่มมีความมันออกมาก

ใช้ Laura mercier // Loose Setting Powder แป้งฝุ่นไม่มีสี แต่ตบแค่เบาๆ หน้าก็เนียนมาก

 

| เทแป้งลงบนฝาแล้วเอาพัฟแตะ

| จากนั้นตบแป้งให้บางเบาโดยตบลงบนหลังมือก่อน

| แล้วค่อยกดพัฟซับความมันบนใบหน้า วิธีเดิม

 

 

 

 

 

 

Step 07 – Shade Finishing:

คราวนี้ไม่ลงบรัชออนเพราะอยากได้หน้าเนียนเรียบ

และไม่ให้สีแก้มไปแข่งกับพอยท์เมกอัพที่ดวงตา

เลยใช้แค่เฉดดิ้งลงทับเพิ่มมิติความชัดเจนให้กับกรอบหน้าเท่านั้น

ขั้นตอนนี้ปุ้ยใช้ NARS Bronzing Powder ปัดซ้ำอีกครั้งให้ทั่วกรอบหน้า และข้างปีกจมูกค่ะ

และปัดแนวดิ่งจากข้างแก้มเลยลงมาถึงต้นคอ

จะได้ทำให้เวลามองด้านข้างแล้ว หน้าไม่ดำผิดหูผิดตาค่ะ

 

 

 

 

 

 

Step 08 – Highlight Finishing: และต่อด้วยไฮไลท์เพิ่มความโดดเด่นให้จมูกและริมฝีปาก

ด้วย Etude 66 Big Eye Multi Lighter ไฮท์ไลท์สุดเลิฟ

แพ็กเก็จน่ารัก ใช้ง่าย สีสวย เนื้อไม่แห้งไปไม่มันไป ใช้เป็นขั้นตอนหลัสุดได้ด้วย เจ๋งใช่มั้ยหละ

ปุ้ยเอาด้วยที่เนิ้อวิ้งๆ ไล่ไปที่สันจมูกแล้ว สันปากด้านบน ในรูปๆ

เสร็จแล้วเอานิ้วเกลี่ยเบาๆ ให้ขอบกลืยๆ ไปกับผิวค่ะ

 

 

 

 

 

Step 09 – Delighted Smile:

รอยยิ้มที่สดใสเบิกบาน แต่งแต้มด้วย Tint Chou สีส้ม กับ KMA สีน้ำตาลส้มทาให้ทั่วปากเลย

แค่นี้เองง่ายนิดเดียว แต่ก่อนลงสี มีเคร็ดลับกลบสีปากนิดกน่อย

โดยใช้คอนซีลเลอร์แบบแท่งของ Botanics

ลงให้ทั่วแล้วทับด้วยแป้งอัดแข็งของเดอะบอดี้ช๊อพ ค่ะ

 

 

 

 

ต่อไปก็ทำผม


 

 

เดี๋ยว Before – After กันหน่อยค่ะ

 

 

 

ขอบขอบคุณ Photographer: Jan007 ~~~ http://jan007atelier.multiply.com

ที่ช่วยถ่ายทำในครั้งนี้ค่ะ

Assistant Mak over: KOI beat_lady ~~~ http://makeupservice.multiply.com/

น้องก้อยผู้น่ารัก ที่มาคอยอยู่เป็นเพื่อน เป็นกำลังใจ ช่วยเหลือ กิน อาบน้ำ เล่นเน็ตและนอน ล้อเล่นนะ

ขอบคุณน้องก้อยมากๆ ถ้าไม่มีน้องก้อย เซ้ทนี้คงไม่สามารถถ่ายให้เสร็จสิ้นได้แน่ๆ ค่ะ

และ Model and Makeup Artist:” PuY~ is me “ ~~~ http://puyisme.multiply.com ปุ้ยเองค่ะ

 

 

 

 

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่มาติชมนะคะ