My passion, All beautiful things and any nice concern share the world beauty by puy ~ is me

How to: Commencement Makeup by " PuY~ is me " ♥

Commencement Makeup by ” PuY~ is me “

 

จากที่ได้เขียน Commencement Guideline (เตรียมพร้อมเพื่อวันรับปริญญา วันแห่งความทรงจำของบัณฑิตสาวยุคทันสมัย) จบไปแล้วนั้น

 

คราวนี้มาพูดถึงเทคนิการแต่งหน้า แบบลงรายละเอียดทุกขั้นตอน กันบ้าง
คิด ว่าหลายๆ คนคงรอคอยมากนานแสนนาน คราวนี้มาตามสัญญา มิให้ผิดหวังค่าาาาาาาา

 

หลักสำคัญของการแต่งหน้างานรับปริญญา มี 3 ข้อที่ต้องคำนึง นั่นก็คือ
1. Learned Polite การใช้โทนสีสุภาพและเป็นธรรมชาติ
2. Look Photogenic การแต่งหน้าให้ถ่ายรูปออกมาสวย
3. Long Lasting การแต่งหน้าให้อยู่ทนนาน

เอารูป Before – After มาให้ดูยั่วน้ำลายกันก่อนค่ะ


ขอเริ่มจากการสรุป เทคนิคการแต่งหน้างานรับปริญญา
1. ครีมกันแดด สำคัญที่สุด

แต่อย่าให้เยอะเกินไปจนมันเยิ้มนะคะ
ส่วนพวกครีมบำรุงผิว ก่อนแต่งหน้าสำหรับวันนี้ ขอให้งดไว้ก่อนเพราะจะมีผลต่อความมันบนผิวค่ะ
[ ปัญหาคาใจ สำหรับคนที่ผิวมัน มีวิธีช่วยค่ะ อ่านตรงคำถามพบบ่อยด้านล่างสุด ]
2. รองพื้นให้เรียบเนียน
ควรใช้รองพื้นแบบน้ำหรือครีม แล้วเซ็ทผิวด้วยแป้งฝุ่นบางๆ ใช้ปริมาณแป้งให้น้อยที่สุด เพื่อคงคงทนตลอดทั้งวันค่ะ 
 ควรหลีกเลี่ยงการใช้รองพื้นแบบแป้งผสมรองพื้นนะคะ เพราะว่าติดไม่ทนและโดนเหงื่อแล้วอาจจะเป็นคราบ
3. ไฮไลท์ เฉดดิ้งลงน้ำหนักให้ชัดเจน มากกว่าการแต่งหน้าปกติ
การลงสีที่จัดกว่าความจริงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับวันนี้ เพราะเมื่ออยู่กลางแดดและถ่ายรูปแล้ว สีในรูปจะดร็อปลงอีก 20-30 % เลย
4. สีหลักๆ ที่ใช้ในการแต่งตา ควรเป็นสีที่สุภาพ
เช่น สีชมพู น้ำตาล ทอง ส่วนสีเข้มๆ เน้นบริเวณหางตาและใกล้ขอบตาค่ะ ช่วยให้ตาดูโตขึ้น
น้องๆ ที่ไม่เคยแต่งหน้า งานนี้ต้องแต่งให้เข้มนิดนึงค่ะ เพราะว่า ทุกคนแต่งหมด ไม่ต้องกลัวว่าเราจะดูแต่งหน้าจัด
เพราะว่าทุกคนแต่งจัดทั้งนั้นค่ะ ถ้าเราแต่งแนวธรรมชาติ เมื่อเทียบกับเพื่อนๆ แล้วเราจะดูดรอปลงไปทันที
5. แก้มใช้โทนสีธรรมชาติ
เช่น ชมพูอมส้ม ส้ม หรือน้ำตาลค่ะ เพื่อให้ดูสุภาพ ปัดเป็นวงรีเฉียงขึ้นไปทางโหนกแก้มค่ะ
6. ลิปสติกก็ใช้โทนสุภาพ
เช่น สีชมพูอ่อนๆ ชมพูอมส้ม สีส้มออกนู๊ดๆ ก็ได้ แล้วตามด้วยกลอสเพื่อให้ปากดูสวยน่ารัก สุภาพแต่สมวัยค่ะ
7.คอนแทคเลนส์ใส่ได้แต่ให้สุภาพ
ตามเทรนด์ของสาวๆ สมัยนี้ แต่งให้ดูสวยต้องใส่บิ๊กอายส์ ถ้าให้แนะนำก็ใส่ได้นะคะ แต่ควรเลือกสีน้ำตาลให้ดูสุภาพ ไม่ดูหลอกตามากไป และลายของเลนส์ก็ควรเลือกแบบไม่มีลาย หรือถ้ามีก็เป็นลายอ่อนๆ อย่างในรูปปุ้ยมักจะใช้ลายนู๊ดดี้ และสตีล่าค่ะ แต่ถ้ามหาวิทยาลัยห้ามใส่ ก็ควรงดนะคะ

ส่วนทรงผม ทำทรงที่สุภาพแล้วเข้ากับใบหน้าค่ะ
แต่มีข้อระวังหน่อย คือ สระผมรอไว้ตั้งแต่เย็นวันก่อนหน้าวันงาน แล้วไม่ต้องลงครีมนวดผมค่ะ ผมจะได้อยู่ทรงแบบที่ช่างทำผมทำให้
และมีข้อระวังสำหรับคนที่รับปริญญาช่วงหน้าฝน ช่วงนี้อากาศชื้นมากค่ะ ถ้าใครทำผมลอนๆ ต้องระวังว่าผมจะคลายตัวออกง่ายนะคะ
อ่านรายละเอียดการเตรียมตัวเรื่องทรงผมได้
ที่นี่ค่ะ

 

Try VDO Version
Get the look: Ecstatic Graduate

 

 


เริ่มการวิเคราะห์ใบหน้ากันก่อน
⋯⋯⋯ จุดเด่น ⋯⋯⋯
โครงหน้า เป็นรูปไข่ แทบจะไม่ต้องแก้ไขอะไร

เพียงแต่ใช้วิธี Contour คัดโครงหน้าให้ชัดขึ้นมาเท่านั้น

รูปร่างดวงตา ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่ไป เป็นรูปแบบมาตรฐาน

ส่วนสภาพผิว หลังจากผ่านการดูแลมาอย่างดี 
ช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้นเยอะค่ะ

⋯⋯ จุดที่ต้องแก้ไข ⋯



1. คิ้ว คือ ขนคิ้วขึ้นไม่เป็นระเบียบ แถมยังขึ้นแบบความหนาแน่นไม่สม่ำเสมอ

ต้องแก้ไข โดยเขียนคิ้วให้เต็มรูปคิ้วทั้งหมด

2. ใต้ตาเริ่มมีริ้วรอย และหย่อยค้อย Y Y


แก้ไขโดยการใช้ คอนซีลเลอร์และไอเท็มที่มีวิ้งๆ ช่วยอำพรางริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ค่ะ


3. ผิวหนังมีรอยกระเล็กๆ และพื้นผิวมีรอยแผล เป็นตั้งแต่เด็กเป็นรอยนิดหน่อย


นอกนั้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง รองพื้นเอา อยู่

4. โครงหน้าบริเวณกราม ซึ่งกรามเริ่มใหญ่ขึ้นตามวัย


การแก้ไข จะใช้เทคนิคการ Contour เข้ามาช่วยสร้างกรอบหน้าให้ชัดเจน
และ Shading ให้กรามดูเล็กลงค่ะ


5. ริมฝีปาก สีเข้มมากและใหญ่


ทำให้เด่นเกินส่วนอื่นๆ ในใบหน้า แถมถ้าถ่ายรูปมาสีจะสดแดงมาก

วิธีแก้ไข ลองคอนซีลเลอร์หรือรองพื้นลบขอบปากออกไป

ทำให้ปากดูเล็กลง แล้วลงลิปที่ปกปิดสีปากได้ดี
และสีอ่อนกว่าสีของริมฝีปากจริงนิดหน่อย

Step 01: Apply Smooth Foundation การลงรองพื้นให้เนียนกริ๊บ

ในการแต่งหน้าสำหรับถ่ายรูปรับปริญญานี้ จะเน้นขั้นตอนการลงรองพื้นมากหน่อย
เพราะว่า การแต่งหน้ารับปริญญาจะไม่มี
Point Makeup ค่ะ เน้นดูดี แบบองค์รวม ซึ่งจะต้องดูดีไปซะทุกส่วนค่ะ

ซึ่งเราจะเน้น การรองพื้นให้เรียบเนียนและควรใช้รองพื้นแบบน้ำหรือครีม แล้วตามด้วยการเซ็ทผิวด้วยแป้งฝุ่นเนื้อบางเบา
(และใช้แป้งในปริมาณที่น้อย แค่เซ็ทึวามมันออกจากผิวเท่านั้น) เพื่อความคงทนตลอดทั้งวันค่ะ

ควรหลีกเลี่ยงการใช้รองพื้นแบบแป้งผสมรองพื้นนะคะ เพราะว่าติดไม่ทนและโดนเหงื่อแล้วอาจจะเป็นคราบ
ได้ค่ะ

Items ที่ใช้ Smashbox //Photo Finish Color Correcting Foundation Primer #BALANCE
Kiss //Mat Chiffon Uv Whitening Base #01
KATE //Liquid Foundation # OC-B

01-1 หลังจากทาครีมกันแดดแล้ว ใช้Smashbox Photo Finish
ทาให้ทั่วหน้า เบสตัวนี้จะช่วยให้ผิวเราดูเรียบเนียนและละเอียดขึ้นค่ะ


และอีกคุณสมบัติหนึ่งข้อ คือ กันรองพื้นลอยออกจากผิว และเป็นคราบค่ะ ข้อควรระวังต้องใช้แต่น้อยนิดเท่านั้น ถ้าลงเยอะไป จะเป็นคราบค่ะ
How to: ลงให้บางเบา คือ ค่อยๆ กดออกมาทีละนิด ลงทีละส่วนๆ ไปจะได้ควบคุมปริมาณได้
 อย่ากดมาทีเดียวแล้วแต้ม 5 จุด เพราะถ้าปริมาณเยอะเกินไปแล้ว จะเอาออกไม่ได้ 
 เพราะสุดท้ายเสียดายต้องปาดให้ทั่วหน้า จะกลายเป็นเยอะไป จะเป็นทำให้รองพื้นเป็นคราบนะคะ
Trick: เบสสีๆ นั้น สีม่วงช่วยให้ผิวซีดๆดูอมชมพูขึ้น สีเขียวสำหรับอำพรางรอยแดง สีชมพู/แซลมอนช่วยอำพรางรอยคล้ำค่ะ

01-2 สำหรับคนที่หน้ามัน ลงต่อด้วยBase Make up ที่ช่วยเรื่องควบคุมความมันของผิว
แต่เบสตัวนี้อย่าลงเยอะอีกเช่น กัน เพราะว่า จะทำให้หน้าดูหนา แล้วก็มีโอกาสเป็นคราบได้ง่าย
ให้ลงบางๆ เฉพาะส่วนบริเวณผิวหน้าที่มันเท่านั้นค่ะ

01-3 ต่อด้วยการลงรองพื้น วันนี้ปุ้ยเลือกใช้ KATE Liquid Foundation สีอ่อนสุด กดรองพื้นลงที่หลังมือก่อน
แล้วค่อยๆ แต้มลงที่ผิวหน้าทีละนิดค่ะ

รองพื้นนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณที่มากนะคะ ค่อยๆ ลงทีละนิด ในจุดที่เราอยากปกปิดค่อยลงเพิ่ม ไม่อย่างนั้นแล้ว หน้าจะดูหนามากค่ะ
รองพื้นของ
Kate รุ่นนี้ เนียนและค่อนข้างหนา แต่ว่า พอลงไปที่หน้าแล้วจะมีธรรมชาติเหมือนไม่ได้ลงอะค่ะ
(คุณสมบัติ ค่อนข้างเหมือน
Lunasol เลยค่ะ แต่ดูหนากว่า)

How to: ใช้นิ้วแต้มรองพื้นแล้วแตะๆ ที่บริเวณผิวที่กว้างๆ ก่อน เช่น หน้าแก้ม ทั้งสองข้าง หน้าผาก และคาง (แต้มทีละจุดนะคะ )

พอแต้มลงที่จุดนึง แล้วก็ให้นิ้ว กดย้ำๆ ให้เนื้อรองพื้นกระจายออกเป็นบริเวณกว้างขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ โดยเว้นบริเวณกรอบหน้าไว้ซัก 2-3 ชม. ค่ะ

ทำแบบนี้ไปจนครบ จุดที่บอกไว้ แล้วใช้พัฟฟองน้ำมากดๆ ย้ำๆ ลงไปให้ทั่วไปหน้า กดๆ ย้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่า จะเนียน (ย้ำๆๆๆๆๆ ลงไป)
วิธีกดย้ำแบบนี้ ช่วยให้รองพื้นเรียบเนียนและติดผิวหน้ามากขึ้น ไม่ลอยออกมาเป็นคราบด้วย
(เทคนิคนี้ น้องก้อย แชร์ให้ฟังค่ะ)

Trick: - เลือกฟองน้ำที่เนื้อแน่นๆ นุ่มๆ นิดนึงนะคะ จะช่วยให้เนียนขึ้นจริง
- สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องผิวไม่เรียบ หรือมีรอยคล้ำ รอยสิว รอยแผลเป็น บลาๆๆๆ
ให้ลงรองพื้นซ้ำในจุดที่มีปัญหา แล้วก็ใช้พัฟกดๆ แล้วลงซ้ำ แล้วกด จนกว่าจะไม่เห็นรอยค่ะ

หรือถ้ายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาของผิวหน้าได้
อาจจะต้องเปลี่ยนไปใช้รองพื้นเนื้อครีมหรือรองพื้น
Stick ที่มีความเข็มข้นกว่าค่ะ

ดูในรูปนะคะ — ซ้ายมือ กดรองพื้นกระจายจากจุดหน้าแก้มเป็นวงใหญ่ขึ้นๆ
– รูปกลาง กดกระจายให้เป็นวงกว้างออกไปอีก จากจุดเดียว ปุ้ยกระจายได้ทั้งซีกหน้าเลยนะคะ และ
– รูปด้านขวา ใช้ฟองน้ำกดย้ำๆ ลงไปค่ะ เนียนขึ้นเห็นๆ

Step 02: Adjust your face structure ปรับโครงหน้าให้เข้ารูป

หลังจากที่ลงรองพื้นเสร็จแล้วหน้าเราจะขาวเหมือนกระดาษเลยที เดียว
ขั้นตอนต่อมา คือ การเพิ่มมิติให้ใบหน้า รวมทั้งการแก้ไขโครงสร้างและปรับรูปหน้าค่ะ โดยการใช้
Item ที่เป็นเนื้อครีม

ในขั้นตอนนี้จะแก้ไขปัญหาพื้นฐานของโครงหน้าในเบื้องต้นทั้งหมดให้ได้ก่อนค่ะ
ซึ่งปัญหาพื้นฐาน ก็ได้แก่ รอยคล้ำใต้ตา ริ้วรอย ความสูงต่ำ กว้างยาวของโครงหน้าที่ไม่สมดุล เป็นต้น
(แล้วหัวข้อถัดไปจะเพิ่มเติมมิติให้ดูเป็นมืออาชีพ ในการปรับโครงหน้าแบบการใช้ไฮไลท์และเฉดดิ้งแบบฝุ่นนะคะ )

Item ที่ใช้ RMK //Super Basic Concealer #01
ZA //Shimmer Glimmer

Revlon //ColorStay Makeup with FoftFlex Combination/Oily Skin #Mocha

02-1 การลงคอนซีลเลอร์ เพื่อปกปิดรอยคล้ำใต้ตา
เช่นเคย ปุ้ยใช้
RMK คอนซีลเลอร์ในดวงใจ ปกปิด เรียบเนียน ไม่เป็นคราบ เกลี่ยง่ายที่สุดแล้ว
อย่างที่เคยบอก เนื้อครีมของ
RMK ค่อนข้างเข้มข้นมากและถ้าเจออากาศเย็นๆ ก็จะแห้งมากค่ะ
How to: ดัดแปลงนิดหน่อยผสมกับอายครีม เบสเมกอัพ หรือทินส์มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ก็ได้ค่ะ

ปุ้ยใช้ผสมกับ ZA Shimmer Glimmer สีไม่เปลี่ยนแถมยังเพิ่มประกายวิ้งๆ ช่วยอำพรางริ้วรอยใต้ตาได้ดีนักเชียว
ใช้
ZA ปริมาณนิดเดียว แล้วใช้นิ้วแตะวนๆ RMK มาผสม ดังที่แสดงในรูปค่ะ
แต่ถ้าใครไม่มีทินส์มอยเจอร์ ก็ใช้นิ้วมืออุ่นๆ วนๆ ลงบนเนื้อคอนซีลเลอร์ ประคบให้เนื้อเหลวลงได้ค่ะ

แล้วนำไปแตะบริเวณใต้ตา ค่อยๆ แตะๆ ให้กระจายออกไป (วิธีเดียวกับรองพื้น) แล้วใช้นิ้วอีกนิ้วที่ไม่ติดเนื้อครีม กดย้ำๆ
จากรอยขอบเข้าไปด้านในค่ะ
รอซักพักให้เนื้อครีมแห้งหน่อย แล้วกดย้ำๆ ลงไปให้เนียนขึ้นค่ะ

Trick: - สำหรับคนที่ใต้ตาคล้ำมาก ให้ใช้คอนซีลเลอร์สีแซลมอลลงไปก่อน แล้วตามด้วย คอนซีลเลอร์สีที่พอดีกับสีผิวค่ะ

 

02-2 การลงไฮไลท์ เพื่อแก้ไขรูปหน้า ลดเงาที่ตกกระทบบนใบหน้าและอำพรางริ้วรอย

ใช้ Item คู่เดิม แต่ทีนี้ ให้ใช้ ZA มากขึ้นอีกนิดและ RMK น้อยลงอีกหน่อย
เพราะบริเวณที่ไฮไลท์ ไม่จำเป็นต้องปกปิดมากค่ะ
How to: บริเวณที่ลง ได้แก่ กลางหน้าผาก สันจมูก ร่องแก้ม คาง และมุมปาก (ดูในรูปค่ะ)

แล้วค่อยๆ กดให้เนื้อครีมคอนซีลเลอร์กลืนเข้าไปกับผิวหน้า (กดเบาๆ และไม่ควรใช้นิ้วปาด จะทำให้เป็นคราบค่ะ)

จากนั้นรอเนื้อคอนซีลเลอร์แห้งแล้ว ใช้พัฟกดย้ำๆ เทคนิคเดิมค่ะ

อ้อ ในขั้นตอนนี้ ใครมี Nars The Multiple สี Copacabana ควักออกมาเลยค่ะ
ทาทับบางๆ ทีบริเวณ หน้าผาก สันจมูกและคาง แล้วใช้พัฟฟองน้ำกดทับๆ ให้กลืนเข้าสู่ผิว
จมูกจะโด่งขึ้นมาเป็นสัน อย่างกะไปหาคุณหมอศัลย์มาเลยทีเดียว มหัศจรรย์มากๆ (ปุ้ยลืมหยิบมาเสียดาย จัง)

Trick: - การลงไฮไลท์ในขั้นตอนนี้ จะเป็นการแก้ไขรูปหน้านะคะ
บริเวณที่ลง จะทำให้บริเวณนั้นดูยกสูงขึ้น เช่น ร่องแก้ม ที่ดูลึกและมีริ้วรอย ก็อำพรางให้สูงขึ้น
มุมปากที่ตก ก็ยกให้สูงขึ้น จมูกที่แบน ก็ยกให้สูงขึ้น
ก็ให้สังเกตดูว่า ในใบหน้าของเรา มีต้องไหนที่ต้องยกให้สูงขึ้น ก็ลงไฮไลท์ไปบริเวณนั้นค่ะ
และการลดเงาตกกระทบ วิธีสังเกตง่ายๆ ลองส่องกระจก
แล้วเห็นเงาตกลงตรงไหน ตรงนั้นแหละ ให้ใส่ไฮไลท์ลงไปค่ะ

- สำหรับคนที่มีร่องแก้มที่ลึกจนเป็นริ้วรอยเป็นเส้นๆ ทำนองว่า ทาแป้งรองพื้นแล้วเวลายิ้ม แป้งแตกเป็นเส้นๆ
ปุ้ยแนะนำว่า อย่าไปลงรองพื้น คอนซีลเลอร์หรือแป้งให้หนาตรงนั้นอะค่ะ
แบบว่ายิ่งหนา ยิ่งแตกเห็นชัดขึ้น
ให้ลงบางที่สุดเท่าที่ทำได้ แล้วใช้วิธีไฮไลท์ด้วนไฮไลท์แบบฝุ่นจะดีกว่าค่ะ

02-3 การเฉดดิ้ง

เพื่อแก้ไขรูปหน้า และลดส่วนเกินบนใบหน้า

ใช้ Item อะไรก็ได้ ในขั้นตอนนี้ขอเป็นเนื้อครีมที่สีค่อนข้างเข้มกว่าผิวจริงของเราซัก 2 – 3 Step ค่ะ
ปุ้ยเลือกใช้รองพื้น
Revlon เบอร์เข้มสุดค่ะ
เฉดดิ้งในขั้นตอนนี้จะเน้นการแก้ไขรูปหน้าขั้นพื้นฐาน (ซึ่งเราจะไปเก็บรายละเอียดอีกทีในการลงเฉดดิ้งแบบ ฝุ่น)

How to: วิธีการเหมือนการลงรองพื้น แต่ว่าเฉดดิ้ง จะลงช่วงกรอบหน้าที่เราเว้นรองพื้นเอาไว้
แล้วใช้พัฟกดๆ ให้กลืนเข้ามากับรองพื้นสีปกติที่ลงไว้ด้วยค่ะ (อย่าปาดนะคะ ใช้วิธีกดๆ มันก็กลืนได้ค่ะ)
จะเห็นว่า สีของเฉดดิ้งค่อนข้างเข้ม ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะว่าเดี๋ยวลงแป้งฝุ่นทับ มันจะดูอ่อนลงไปจนแทบไม่เห็นเลย


Trick: - พื้นที่ในการลง ขึ้นอยู่กับโครงหน้าของแต่ละคนด้วย โดยเทคนิคที่ตรงข้ามกับไฮไลท์
การลงเฉดดิ้ง ตรงไหนที่เราอยากให้มันลดพื้นที่หรือดูต่ำลง ก็ลงบริเวณนั้นไปค่ะ
อย่างของปุ้ย ใบหน้าด้านข้างมีบริเวณกว้างเกินไป และโหนกแก้มเริ่มสูงแล้ว
ก็จะลงบริเวณที่เห็นในภาพค่ะ และลงตรงข้างๆ สันจมูกทั้งสองข้าง ทำให้จมูกดูสูงโด่งขึ้นค่ะ

ส่วนใครที่ มีหน้าผากกว้าง ให้ลงบริเวณไรผมด้านบน
หรือหน้าผากผายออกให้ลงตรงปีกหน้าผากบริเวณ เหนือขมับ

ใครที่มีกรามใหญ่ ก็ลงบริเวณกรามไปด้วยค่ะ

Step 03 Set Loose Powder แป้งฝุ่นช่วยเซ็ท

เพื่อดูดซับความมันของเนื้อครีมที่ลงไปทั้งหมด ไม่ใช่การลงให้หน้าเนียนนะคะ
เพราะฉะนั้นเราจะแป้งฝุ่นให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อไม่ให้สีรองพื้นกับไฮไลท์และเฉดดิ้งของเราถูกกลืนไปกับสีแป้ง

Items ที่ใช้ La Mer //The Powder #Translucent
MAYBELLINE //Mineral Power Natural Perfecting Powder Foundation #Original Rose



03-1 การลงแป้งฝุ่น
ขั้นตอนนี้เพื่อเซ็ทรองพื้นกับคอนซีลเลอร์ที่ลงไว้ ให้เรียบและอยู่ทน
โดยปริมาณที่ลงแป้ง อย่าให้มากไป จะทำให้หน้าดูหนา และเป็นคราบได้ค่ะ

ปุ้ยเลือกใช้ แป้งฝุ่นโปรงแสงของลาแมร์ (La Mer The Powder) เนื้อละเอียดมาก เนียนเรียบ ไม่เป็นคราบ
ราคาแพงกว่าแป้งฝุ่นยี่ห้ออื่น แต่ว่าคุณภาพดีกว่ามากนะคะ แถมใช้ได้นานมากๆ คุ้มกับการลงทุนค่ะ

How to: กะเทาะแป้งออกมาในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ใช้พัฟกดแป้งให้ทั่วๆ ใบหน้า
Trick: - ปริมาณที่พอเหมาะ ที่ว่า รู้ได้อย่างไร
ใช้พัฟแตะแป้งลงที่หน้าทีละน้อยๆ แล้วใช้หลังมือแตะผิวหน้าทดสอบดูว่า หน้ายังเหนอะๆ อยู่รึป่าว
ถ้ายังเหนอะ ก็ลงเพิ่มอีกนิด แล้วทดสอบอีก ทำอย่างนี้จนกว่า จะรู้สึกว่าหน้าไม่เหนอะแล้ว ค่ะ

- จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นแป้งฝุ่นยี่ห้อแพงๆ นะคะ
เพราะเราใช้เพื่อจุดประสงค์ให้ดูดซับความมันของเนื้อครีมออกไป

ใช้แป้งเด็กก็ได้นะคะ เนื้อแป้งเบาดี อย่างพวกจอห์นสันเพียว เอสเซนเชี่ยว ก็ได้ค่ะ


03-2 ลงแป้งมิเนอรอล เพิ่มความเนียน
ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็น แต่ว่า อยากบอกต่อ
ถ้าอยากให้หน้าเนียนกริบ ลองใช้
Mineral Power ลงทับไปอีกนิดนึง แต่ว่า อย่าลงทั่วทั้งหน้านะคะ
Trick: - เลือกสีที่ตรงกับสีผิวที่สุดค่ะ บริเวณที่ลง คือ ช่วงแก้มด้านล่างลงไปข้างๆ มุมปาก
(เพราะเป็นบริเวณที่สีผิวไม่สม่ำเสมอ) และหน้าผากด้านบนติดกับไรผม
ปุ้ยแนะนำว่าอย่าลงช่วงกลางหน้านะคะ อยากให้โชว์รูขุมขนกับความใสของแก้มไว้นิดนึงค่ะ

- ปริมาณที่ใช้ ประมาณเท่าขี้เล็บได้ค่ะ
โดยเฉพาะของยี่ห้ออื่นๆ และยี่ห้อที่ผสมกันเอง ถ้าใช้เยอะมันจะดูหนาเกินไปค่ะ
ของ
MAYBELLINE อนุญาตให้ใช้เยอะหน่อยได้ เพราะว่าไม่ค่อยหนาเท่ายี่ห้ออื่นๆ
ปริมาณที่เห็นในรูป ปุ้ยใช้ลงที่บริเวณคอ แล้วที่เหลือติดแปรง เอามาลงที่หน้าค่ะ

- แปรงที่ใช้ ปุ้ยแนะนำว่า ให้ใช้แปรงที่แถมมากับกระปุกแป้งยี่ห้อที่ซื้อมาค่ะ
เพราะเค้าทำ การวิจัยมาแล้วว่า แป้งของเค้า ต้องใช้แปรที่มีขนยาวเท่านี้ มีความแข็งเท่านี้ๆ

How to: เคาะแป้งลงบนภาพชนะที่ใช้พัฟ (เห็นเค้าว่า สาวก MMU ต้องมีทุกคน) ปริมาณน้อยนิด (น้อยจริงๆ ขอย้ำ)
แล้วใช้แป้งสำหรับพัฟแป้ง รูปร่างหน้าตาอย่างที่เห็นในภาพ หรือแป้งที่แถมมากับยี่ห้อนั้นๆ พัฟแป้ง
แล้วมาทาแบบวนๆ ให้เน้นเฉพาะช่วงแก้มด้านล่างลงไปข้างๆ มุมปาก
ส่วนบริเวณที่เหลือ เผยผิวใสกับไฮไลท์เฉดดิ้งไว้ค่ะ
เสร็จแล้ว เพิ่มระดับความเนียนกิ๊กใช้ได้เลยทีเดียว

Trick: - เมื่อเราลงแป้งเสร็จแล้ว หากใครมือหนักจะเห็นว่าหน้าเราก็จะขาวกลับเป็นกระดาษอีกครั้งนึง
แต่อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ว่าสิ่งที่เราทำการแก้ไขโครงสร้างใบหน้าจะหายไป
เดี่ยวรอซักพัก พอแป้งเริ่มผสมกับน้ำมันบนใบหน้า สีก็จะเริ่มออกมาให้เห็นเหมือนเดิมค่ะ

- แต่สำหรับใครที่ขี้เกียจหรือว่าไม่มีเวลา
สามารถข้ามขั้นตอนการลงไฮไลท์และเฉดดิ้งแบบเนื้อครีมไปก็ได้ จะใช้ เป็นแบบฝุ่นหมดเลยก็ได้ค่ะ
แต่ว่า ขอให้เพิ่มการลงรองพื้นให้ทั่วหน้า จนถึงไรผม เพื่อให้ไฮไลท์และเฉดดิ้งแบบฝุ่นที่เราลงสามารถเกาะติดผิวหน้าได้ ดีขึ้นค่ะ

Step 04 Lighten and Shade a Photogenic face ถ่ายรูปสวยด้วยใบหน้าที่มีมิติ
ขั้นตอนต่อมา คือ การเพิ่มมิติให้ใบหน้า และคัดโครงหน้าแบบมืออาชีพ

บางคนอาจคิดว่า ขั้นตอนนี้ดูซ้ำซ้อนกับขั้นตอนการลงไฮไลท์และเฉดดิ้งแบบเนื้อครีม
แต่จริงๆ แล้วการเพิ่มมิติให้ใบหน้า และคัดโครงหน้าในขั้นตอนนี้ เป็นการลงรายละเอียดมากขึ้น เพิ่มเติมจากการแก้ไขขั้นพื้นฐาน

ซึ่งในขั้นนี้เรียกว่าได้ว่าเป็นการเพิ่มมิติให้หน้าดูบาลานซ์ และมีเสน่ห์ ดึงดูดสายตาของผู้ชมมากขึ้น

Items ที่ใช้ ได้แก่ NARS //Blush #Nico, #Sertao, #Deep Throat
NARS //Single Eyeshadow #Edie

04-1 Contour and Shading ขั้นตอนนี้เราจะคัดโครงหน้าและสร้างกรอบหน้าให้เห็นชัดขึ้นมา ค่ะ

เลือกสีแป้งเฉดดิ้งที่เราชอบมาเลยค่ะ วันนี้ปุ้ยจะใช้ NARS สี Sertao เป็นสีน้ำตาลแดงอิฐออกส้มๆ นะคะ
How to Contour: ใช้แปรงที่มีลักษณะแบนๆ หัวคล้ายๆ พัด หน่อยค่ะ
ยิ่งถ้าเป็นขนสัตว์ได้ยิ่งดี จะทำให้สีติดกับผิวได้ดีกว่าค่ะ

บริเวณที่ลง ดูในรูปนะคะ ปุ้ยจะอธิบายจากด้านล่างไปสู่ด้านบนค่ะ แตะฝุ่นเฉดดิ้งออกมานิดนึง
บริเวณที่ 1: ขากรรไกรด้านล่าง ช่วยให้โครงหน้าชัดขึ้น ปัดแปรงด้วยน้ำหนักมือที่เบาๆ ทิศทางการปัดแปรง
คือ จากใต้ขากรรไกร ขึ้นไปจนถึงกรอบหน้าแล้วหยุดแปรง แล้วเริ่มปัดใหม่ทำซ้ำ
เป็นแบบนี้ จาก ติ่งหู ไล่ไปจนถึง –> คาง
ไล่ Contour จากใช้ปริมาณสีที่น้อยๆ ทำซ้ำๆ ไปจนกว่าจะได้ระดับความเข้มที่เราพอใจค่ะ
ถ้ายังไม่แน่ใจ ก็ค่อยกลับมาเพิ่มความเข้ม อีกรอบก็ได้ ดูให้สีบาลานซ์กันระหว่างบลัชออนด้วยอะค่ะ

บริเวณที่ 2: โหนกแก้ม (Cheek Bone) ช่วยให้หน้าดูตอบขึ้น
ทิศทางที่ไล่ คือ จาก กกหูลงมาถึงโหนกแก้ม อย่าให้ต่ำว่าปีกจมูก และอย่าให้เลยกลางตาดำค่ะ

บริเวณที่ 3: ขมับ ช่วยให้หน้าผากแคบลง
บริเวณนี้ง่ายค่ะ แค่แปรงขยี้ๆ ไปมา บริเวณขมับ โดยให้กลืนเข้าสู่ไรผม เป็นใช้ได้

How to Shading: บริเวณที่ลงลงเฉดดิ้ง ก็ใช้หลักการเดียวกับการลงเนื้อครีม
ส่วนไหนที่เราอยากให้ลดพื้นที่ให้ดูเล็กหรือแคบลง ก็ปัดลงบริเวณนั้น

ในที่นี้ ปุ้ยใช้การลงเฉดดิ้งเพื่อไล่สีของ Contour ให้กลมกลืนไปด้วย โดยลงบริเวณกรามทั้งสองข้าง
และบริเวณโหนกแก้มที่สูงเกินไปค่ะ แต่การลงสีของเฉดดิ้งจะอ่อนกว่า การลง
Contour นิดหน่อยค่ะ
เพราะว่า การลง
Contour เป็นการคัดโครงหน้าให้ชัดเจน ดังนั้นสีจะชัดกว่าค่ะ

และอีกบริเวณนึงที่น่าสนใจคือ ข้างสันจมูกและ ปีกจมูกค่ะ
ในส่วนนี้การลงเฉดดิ้งจะช่วยยกให้สันจมูกสูงขึ้น และให้ปีกจมูกดูแคบลง
แตะแป้งเฉดดิ้งมานิดหน่อย แล้ว พักแป้งไว้หลังมือ ให้ปริมาณแป้งไม่มากหรือเข้มจนเกินไป
บริเวณที่ลงดังรูปเลยค่ะ ไล่แปรงจากหัวคิ้ว ยิงตรงยาวลงมาจนถึงปลายจมูกเลยค่ะ
แล้วใช้แป้งที่เหลือติดแปรงมาปัดปีกจมูกต่อ


Trick: - การ Contour คัดโครงหน้าและการลงเฉดดิ้งนี้ ไม่มีรูปแบบตายตัวที่ชัดเจน แล้วแต่เทรนที่แต่ละคนชอบค่ะ
ทำนองว่า ฝรั่งก็ชอบโครงหน้าแบบนึง ญี่ปุ่นแบบนึง เกาหลีแบบนึง เอาเป็นว่า เราทำในแบบที่เราชอบแล้วกันค่ะ

04-2 Hilight ในขั้นตอนนี้ลงเพื่อเพิ่มเสน่ห์ ดึงดูดให้กับใบหน้า ทีเด็ดของปุ้ยเลย ค่ะ
การลงไฮไลท์จะช่วยให้หน้าเราดูเด็กลง และจะช่วยให้ดูน่าสนใจขึ้นด้วยนะคะ

ปุ้ยเลือกใช้ NARS //Single Eyeshadow #Edie

ลงไฮไลท์ใต้ตา ชอบวิ้งๆ ของสีนี้มาก ดูน่ารักกำลังดี จะออกเงาๆ นิดหน่อยค่ะ
บางคนอาจจะไม่ชอบ ยังไงก็ลองเลือก
Item ที่ตัวเองชอบมาซักชิ้นนึงนะคะ
ส่วน
Blush #Nico ลงบริเวณหน้าผากและสันจมูกค่ะ จริงๆแล้วอันนี้สีสวยมาก
แต่ว่าไม่ลงใต้ตา เพราะว่าลักษณะของตัวนี้มีแป้งผสมอยู่เยอะมาก พอลงใต้ตาแล้ว จะทำให้แตกเป็นลายตามร่องผิวอะค่ะ

มาดูกัน How to: แปรงที่ใช้ลงไฮไลท์ควรเป็นแปรงที่มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป เล็กกว่าแปรงปัดแก้มนิดนึงกำลังดีค่ะ
บริเวณที่ลงคือ หน้าผาก ใต้ตา สันจมูกคาง และร่องแก้มค่ะ ปัดแบบสบายๆ ง่ายๆ ค่ะ
Trick: - แต่อย่าเผลอไปลงทั้งหน้านะคะ ไม่อย่างงั้นหน้าจะดูเงาเกิน เสน่ห์มันจะเยอะไปหน่อยอะค่ะ :P


04-3 Blush on การปัดแก้ม ขั้นตอนนี้คิดว่าสาวๆ คงถนัดกันอยู่แล้ว


การปัดแก้มสำหรับงานรับปริญญา เน้นให้ดูเรียบร้อยสุภาพ
โดยเลือกใช้โทนสี ชมพูอมส้ม ส้ม หรือน้ำตาลค่ะ เพื่อให้ดูสุภาพที่สุด
ปุ้ยเลือกใช้ สีชมพูพีช อย่าง Nars Blush #Deep Throat ให้ได้ลุคที่ดูสดใสเป็นธรรมชาติ
How to:
- ทิศทางการปัด ปัดเป็นวงรีเฉียงขึ้นไปทางโหนกแก้มค่ะ จะดูเป็นธรรมชาติแบบสุภาพๆ
- เพิ่มเติมการบาลานซ์สีของใบหน้าโดยการปัดเหนือคิ้วเลยไปถึงเหนือขมับ ดังรูปค่ะ
จะช่วยให้โครงหน้าและสีดูบาลานซ์กันมากขึ้น

Trick: – การปัดแก้มในวันรับปริญญาควรปัดให้เข้มกว่าปกติ เพราะว่าถ่ายรูปมาจะไม่ค่อยเห็น
อีกอย่างเพื่อนๆ ที่เค้าให้ช่างแต่งหน้าแต่งให้ จะปัดมาแบบเข้มมากๆ ถ้ายืนถ่ายรูปด้วยกันแล้ว เราจะดูหน้าซีดไปถนัดตาเลยค่ะ
>
ถ้าใครที่ปัดแล้วรู้สึกว่าปัดเท่าไหร่ก็ไม่เข้ม
แนะนำลองเปลี่นนไปใช้บรัชออนที่เป็นเนื้อแม็ทแบบไม่มีชิมเมอร์ดูค่ะ
จะได้สีที่ขัดและเข้มกว่า

จากนั้นค่อยปัดทับด้วยบรัชออนสีอ่อนที่มีชิมเมอร์ ก็จะได้แก้มที่ดูมีมิติสดใสขึ้นค่ะ

จบขั้นตอนของพื้นผิวหน้า ทั้งหมดเพียงเท่านี้

ขอเปรียบเทียบ Snapshot ให้ดูความแต่งต่างกันค่ะ ดูเอาว่าแต่ละขั้นตอนสำคัญและให้ความแตกต่างกันขนาดไหน

ด้านซ้ายมือ เป็นรูปที่ไม่ได้ทำอะไรกับหน้าเลย หน้าเปล่าๆ
รูปกลาง เราเสร็จขั้นตอนการลงรองพื้นและแป้งฝุ่นแล้วค่ะ
รูปขวามือ เสร็จสิ้นการคัดโครงหน้าด้วยการลงไฮไลท์และเฉดดิ้งแบบฝุ่นค่ะ

 

Step 05 Shape your Eyebrows เขียนคิ้วให้ได้รูป เพื่อโครงหน้าที่ดูมีสมดุลมากขึ้น

Items ที่ใช้ Fasio //eyebrow mascara waterproof #322 Golden Brown (321 Light Brown)
Kate //Designing Eyebrow N (EX-5)
red earth //ABSOLUTE BROWS Brow Perfecting Kit #BLONDE

Trick: - สีของคิ้วควรใกล้เคียงกับสีผมค่ะ


05-01 Eyebrow Mascara: ใช้ Fasio eyebrow mascara สี Golden Brown
ซึ่งใกล้เคียงกับสีผมของปุ้ย ณ ตอนนี้ (สำหรับใครที่ผมสีเข้ม แนะนำให้ใช้สี
Light Brown ค่ะ)
ปัดเพื่อเติมช่องว่างระหว่างขนคิ้วและกลบสีขนที่ดูเข้มให้เบาลง ใบหน้าจะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

05-02 Eyebrow Powder: ใช้แปรงหัวตัดแตะสีเข้มของ Kate ลงที่แล้ววาดหางคิ้ว
ตั้งแต่รอยหยักของคิ้วลงมา และสะบัดปลายให้เรียวงาม
และสีกลางวาดตัวคิ้ว
มาต่อกับสีเข้มที่หางคิ้ว
ส่วนหัวคิ้วปุ้ยใช้
red earth สีอ่อนสุด มันจะออกน้ำตาลทองอ่อนๆ ใช้แปรงหัวใหญ่ขึ้นเติมหัวคิ้วให้เต็ม ค่ะ
ถ้าใครผมสีเข้มให้ใช้สีอ่อนสุดของ
Kate ได้เลย พอดีๆ



Trick: - การเขียนคิ้วก็ช่วยปรับโครงหน้าได้ แต่ว่า ยังไงก็เน้นแบบกลางๆ ไว้ค่ะ
พยายามดูพวกนิตยสารที่มีโฆษณาเครื่องสำอางยี่ห้อต่างๆ
คิ้วส่วนใหญ่จะมีมาตรฐานแบบนั้น ดูๆ ไว้เยอะๆ แล้วซึมซับๆ เดี๋ยวจะจำรูปร่างได้และเขียนได้เอง

ขั้นตอนของดวงตา ไม่ลงรายละเอียดมากแล้วกัน เอาสบายๆ มี Trick ให้อ่านเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ

Step 06 Delight your Eyes ดวงตาที่เปี่ยมล้นด้วยความยินดี

การแต่งตาในงานรับปริญญาควรเลือกที่ใช้สีที่สุภาพ เช่น สีชมพู น้ำตาล ทอง
ส่วนสีเข้มๆ เน้นบริเวณหางตาและใกล้ขอบตาค่ะ ช่วยให้ตาดูโตขึ้น

แต่ถ้าอยากมีลูกเล่น ให้ใช้การเพิ่มประกายวิ้งๆ ให้ดวงตาแทนการเล่นสีค่ะ

Items ที่ใช้
Botanics //Stick Concealed
Kate //Glam Trick eyeshadow palette #BR-1
Kate //Dual Carat #BR-1
Make up Store //Microshadow # powdery nut
Felicite MMU //Mineral Eye Color #Champagne
RMK //Shiny Metallic Gold
Majolica Majorca //Neo Automatic Eyeliner #BR622
Majolica Majorca //Mascara Lash Expander Frame Plus
Maquillage //Eyelash Curler
Make up Store //EYELASH APPLICATOR
Mei Linda //Fashion Lashes #BK-311

06-1 Eye Base: ใช้ของอะไรก็ได้ ลงไว้เพื่อให้อายชาโดวติดดีขึ้นค่ะ สีชัดขึ้น
และสำหรับคนที่ตาคล้ำมากๆ ช่วยอำพรางให้ดูคล้ำน้อยลงได้ค่ะ จะใช้เป็นคอนซีลเลอร์เนื้อเบาๆ ก็ได้ นะคะ
(ปุ้ยใช้
Botanics Stick Concealed) ทาให้ทั่วๆ เปลือกตาเลยค่ะ

06-2 Eye Hilight: ลงให้ทั่วเปลือกตาบนและล่าง และเลยมาถึงโหนกคิ้วด้วยค่ะ
เพื่อเป็นเบสและไฮไลท์ให้ดวงตา ทาเป็นพื้นไว้ค่ะ

06-3 Champagne: เลือกสีกลางมา 1 สี
(ปุ้ยใช้สี
ChampagneMMU ของ FeliciteClub เป็นเคล็ดนิดหน่อย
การรับปริญญาเหมือนกันฉลองความสำเร็จของเรา ชนแชมเปญกันหน่อยค่ะ)
ทาสีกลางไล่ตั้งแต่ขอบตามาจนถึง 70%ของเปลือกตา หรือเลยรอยพับตามานิดนึงค่ะ

06-4 Eye Boundary: สร้างกรอบตาให้ดูโตขึ้น
โดยใช้แปรงหัวตัด แบบนุ่มๆ แตะสีเข้มขึ้นมาอีกหน่อย

ลากจากหางตาด้านล่างเข้ามาจนถึงกึ่งกลางตาดำ ค่ะ
และ ด้านบนก็เช่นกันค่ะ ลากจากหางตามาจนถึงกึ่งกลางตาดำด้วย
วิธีนี้เป็นการสร้างกรอบตา ใหม่ให้เรา จะเห็นว่าตาเริ่มดูโตขึ้น
อยากดูโตแค่ไหน ก็ลากเส้นให้ยาวไปเท่านั้นอะค่ะ แต่อย่างไรก็อย่ายาวเกินหางคิ้วนะคะ

06-5 Shadow my eye: ใช้แปรงหัวฟุ้งๆ แตะสีเข้มสีเดิม มาคัดเป้าตาค่ะ
โดยเริ่มจากหางตาขึ้นไปเป็นแนวหลังเต่า (คือโค้งเหมือนกระดองเต่า อะค่ะ)
โดยสโต็กแปรงไปมาซ้ายขวา ทีละนิดๆ จากหางตาไปยังหัวตา
ถ้าใครยังไม่เซียน สีอาจจะไม่กลืน เห็นรอยต่อชัดเจน ให้ให้นิ้วของเราเนี่ยแหละค่ะ
เช็ดๆ สีบริเวณขอบๆ ออก สีจะกลืนกันไปเอง (ลองดูค่ะ)

06-6 Light up my eye: ทีนี้ใช้สีอ่อนๆ อีกครั้ง มาไฮไลท์ตรงกลางตา ทำให้ตาดูบริ๊งขึ้น
เวลากระพริบตา จะเห็นว่าตาบริ๊งขึ้นอะค่ะ (ปุ้ยเลือกใช้
MUS สี powdery nut)

06-7 Deeping line: เลือกสีดำหรือสีเข้มมากๆ มาลากเส้นให้ขอบตา
ทำให้ตาดูมีมิติขึ้นและดูคมขึ้นด้วยค่ะ (ปุ้ยใช้สีเทาเข้มจากพาเล็ตของ
Kate)
ใช้แปรงหัวตัดเหมือนเดิม แปรงหัวตัดจะช่วยให้ลากเส้นได้แม่นยำและคมค่ะ

06-8 Glitter my eye: เพิ่มลูกเล่นให้ดูสดใส ด้วยการลงกลิตเตอร์ นิดหน่อยค่ะ
จะทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์ขึ้น และไม่เรียบจนเกินไป ให้ดูสดใสเหมาะกับวัยรุ่น
(ปุ้ยใช้
RMK รุ่นวิ้งๆๆๆๆๆๆ สีทองค่ะ) โดยทาบริเวณหัวตาทั้งด้านบนละล่าง
ถ้าใครอยาก วิ้งมากๆ ก็ทาเลยมาที่กลางตาด้านบน จากขอบตาจนถึงรอยพับตา
และด้านล่าง ต้งแต่หัวตา ไล่ยาวได้จนมาถึงกลางตาดำเลยค่ะ
หากมหาวิทยาลัยไหน ห้ามก็อย่าทำนะคะ
;P เปลี่ยนไปใช้อายขาโดวสีขาวหรือสีมุขๆ แทน

06-9 Golden Brown Liner:
ปุ้ยใช้สีน้ำตาล เพราะว่า สีผมสีอ่อนนะคะ จะได้กลมกลืนกับหน้าและไม่ดูโดดจนเกินไป
แต่หาใครผมสีเข็มจะใช้สี ดำก็ได้ค่ะ (ปุ้ยใช้
Majolica แบบพู่กัน ง่ายเขียนลื่น)

สำหรับการเขียนไลน์เนอร์ให้ง่าย คือ ลากหางก่อน โดยจรดปลายพู่กันที่หางตา แล้วลากหางยาวออกไป
โดยองศาเดียวกับหางตาล่างอะค่ะ เหมือนลากเส้นต่อออกไปจาหางตาล่าง
ความยาวประมาณ 0.5 – 1 ซม. ดูกำลังดีไม่มากไป

จากนั้นค่อยลากเติมไลน์เนอร์ให้เต็มจากหัวตาไปยังหางตาค่ะ
ส่วนด้านล่าง ให้ลากด้านในตรงเอ็นตา ช่วงหัวตาถึงกลางตาดำและค่อยมาหนาเอาตรงหางตา
จะช่วยให้ตาดูโตขึ้น แต่ยังรักษาความสุภาพได้อยู่ค่ะ


06-10 Eyelash: ขั้นตอนนี้ดัดขนตาปัดมาสคาร่า ตามอัธยาศัย กันไปก่อน
ไม่ต้องเน้นให้งอนยาวมาก แค่ของให้ดัด ให้ปัดเป็นใช้ได้ค่ะ เพราะเดี๋ยวจะติดขนตาปลอมกันนะคะ
แต่อย่าลักไก่ ไม่ดัดไม่ปัดนะคะ เดี๋ยวมันจะเห็นขนตาสองขั้น น่าอับอายมากนะคะ

ส่วนมหาวิทยาลัยไหนห้ามติดขนตาปลอม ก็ใช้การปัดมาสคาร่า ปัดซ้ำซัก 4 – 5 ครั้ง
ขนตาก็จะดูหนาแบะยาวขึ้นค่ะ แต่ถ้าอดใจไม่ไหวจริงๆ ก็ใช้ขนตาปลอมแบบช่อ แซมลงไปแค่ช่วงหางตานะคะ
อาจารย์จับไม่ได้แน่ๆ นอกซะจากว่าอาจารย์จะเป็นมือแต่งหน้าชั้นเซียนค่าาา

06-11 Artificial Eyelashการติดขนตาปลอม เป็นสิ่งสำคัญยิ่งค่ะ
เพราะว่า ถ้าไม่ติด เราจะไม่เห็นขนตาของเราในรูปถ่ายเลย

การเลือกขนตาปลอม ควรเลือกแบบที่ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด และให้ยาวกว่าขนตาจริงของเราซัก 1.5 เท่าค่ะ
อย่าเลือกแบบที่แฟนซีมากไปนัก การแต่งหน้ารับปริญญาต้องท่องไว้ตลอดว่า สุภาพๆๆๆ
และเพราะหลายคนใข้ขนตาแบบซุปเปอร์หนา งอนยาว เกินจริงเหมือนจะไปเต้นคาบาเร่ หรือจะเป็นตุ๊กตาบรายธ์
น้องๆ ขาเรียนจบเป็นบัณฑิตกันแล้ว ต้องแยกแยะให้ออกระหว่างความสวยงามกับคำว่า “กาลเทศะ” นะคะ
เนี่ยแหละค่ะจึงเป็นเหตุให้หลายมหาวิทยาลัยถึงกับต้องออกกฏว่าห้ามติดขนตาปลอม เหตุผลเดียวกับการห้ามใส่คอนแทคเลนส์
เดือดร้อนกันไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานนะคะ น้องขาาาาา

ในการทำฮาวทูครั้งนี้ปุ้ยเลือก Mei Linda //Fashion Lashes #BK-311
ซึ่งดูธรรมชาติมาก ติดออกมาแล้วแทบไม่เห็น (คราวหน้าจะมาขอรีวิว ขนตาปลอม เป็นการไถ่โทษ นะคะ)

ไม่นานมานี้ปุ้ยเพิ่งค้นพบ อุปกรณ์ที่ช่วยให้เราติดขนตาเองได้ดีและเร็วขึ้นค่ะ
มันก็คือ
EYELASH APPLICATOR ของ Make up Store นั่นเอง

 

 

ปกติแล้ว ปัญหาหลักๆ ที่พบ จากการติดขนตาปลอมเอง นั้นก็คือ
ขนตาจะไม่ชิดกับขอบขนตาจริง และมันจะไปติดกับขนตาจริงของเราบ้าง
ติดกับเปลือกตาบ้าง อะไรบ้าง
แล้วมือเราก็ไม่นิ่งบ้าง กลัวติดบังบ้าง ก็ไปกันใหญ่
ติดทีเป็นชม. นานกว่าแต่งหน้า อีก
ไอ้เจ้าเครื่องช่วยติดขนตานี้ จะช่วยให้เราจับขนตาได้มั่นคง
และสามารถดัดโคนขนตาปลอมไปติดกับโคนขนตาจริง เราได้สบายๆ เลยค่ะHow to: เอาขนตาออกมาจากกล่อง แล้วเอามือข้างไม่ถนัดจับขนตาไว้
มือข้างถนัดจับเครื่องช่วยติด แล้วหนีบขาตาเอาไว้
เว้นระยะจากโคนขนตามาประมาณครึ่งของขนตา
แล้วเอากาวมาทาตรงโคน ขนตาปลอม แล้วก็รอจนกาวเกือบแห้ง
นำไปติดโดยให้ชิดกับโคนขนตาจริงของเรา
ก่อนติดให้เล็ง ตำแหน่งก่อน แล้วใช้วิธีดันขนตาจริงลงนิดนึง
แล้วเอาขนตาปลอมติดลงไปตรงกลาง
ก่อนปล่อยที่หนีบออก แล้วจับหัวขนตาให้แนบกับหัวตา
และจับปลายขนตาให้แนบกับหางตาโดยตวัดปลายขนตาขึ้นเล็กน้อย
จากนั้น จัดตำแหน่งกับองศาของขนตาปลอม
แล้วดันให้ขนตาชิดแนบกับตาจริง จนกว่ากาวจะแห้งค่ะ
เมื่อกาวแห้งแล้ว ถ้ายังมีสีขาวๆ โผล่มา
ก็ใช้อายไลน์เนอร์เขียนทับลงไปที่โคนขนตา ค่ะ
ถ้าใครอยากให้ขนตาดู เนียนไปกับขนตาจริง
ก็ปัดมาสคาร่าทับไปนิดนึงก็ได้
แล้วใช้ทิชชู่มาจับที่ขนตาเพื่อเอามาสคาร่าส่วนเกินออกด้วยนะคะเสร็จสิ้น เราได้ขนตางอนเด้ง ปริ๊งๆ

สำหรับใครที่ไม่มีเครื่องช่วยติดขนตาหรือไม่อยากซื้อให้มันเปลืองสะตุ้งสตางค์ ก็สามารใช้การฝึกฝนได้ค่ะ
เทคนิคการติดขนตา ที่อยากแนะนำคือ การปรับระดับของกระจกส่องหน้าให้อยู่ในระนาบแนวนอน
จะช่วยให้เราเห็นพื้นที่บริเวณขอบตาที่จะติดขนตาได้ชัดเจนขึ้น (ลองทำดูค่ะ)
แล้วใช้นิ้วมือหยิบขนตาจับตรงปลายทั้ง 2 ข้าง จากนั้นค่อยๆ นำขนตาที่ติดกาวแล้วมาวางที่โคนขนตาจริง
โดยเริ่มวางจากตำแหน่งกึ่งกลางก่อน จัดตำแหน่งขนตาปลอมให้เข้าที่ดูหัวตาไม่เกินหางตาให้พอดี
แล้วจึงค่อยๆ วางขนตาตรงด้านหางตาแนบลงไปกับขอบตา จากนั้นก็วางขนตาด้านหัวตาลงให้ชิดขอบตา
ให้การหันหน้าซ้ายขวาเพื่อให้เห็นพื้นที่ตรงหัวตาชัดขึ้น ก็จะช่วยให้ติดไม่พลาดตำแหน่งค่ะ


Step 07: Proudly Smiles รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ

สำหรับงานรับปริญญา ควรใช้ลิปสติกโทนสีสุภาพ อย่าง สีชมพูอ่อนๆ ชมพูอมส้ม หรือสีส้มออกนู๊ดๆ ก็ได้
แล้วตามด้วยกลอสเพื่อให้ปากดูสวยน่ารัก สุภาพแต่สมวัย แค่นี้เองค่ะ

(ปุ้ยใช้ SUQQU Creamy Lip Stick เบอร์ 20 ค่ะ)


Items:

Tony Moly // Sunrise Dual Lip liner [01], SUQQU //Creamy Lip Stick [20],
CLINIQUE //Glosswear for Lips [Glamour full]

Trick: - การทาลิปสติกให้อยู่ทนนาน
ถ้าต้องการให้ติดทนนาน ใช้สินสอเขียนขอบปากเขียนทับไปทั้งปากเลย แล้วค่อยตามด้วยลิปสีค่ะ
จากนั้นให้ทิชชู่เม้มปาก แล้วใช้พัฟแตะแป้งฝุ่นตบๆ ไปเล็กน้อย แล้วทาลิปสีๆ อีกรอบ
จากนั้นจบท้ายด้วยกลอสค่ะ ก็สามารถยิ้มสวยๆ ตลอดงาน เช้ายันเย็นแล้วค่าาา


 

และก็เสร็จสิ้นการแต่งหน้ารับปริญญาค่ะ

จบท้ายด้วยการเปรียบเทียบ Snapshot ระหว่างขั้นตอน มาดูถึงความเปลี่ยนแปลงกันค่ะ

รูปแรกสุด หน้าเปล่าๆ ไม่ได้ทำอะไร รูปที่ 2 เสร็จสิ้นการลงรองพื้นและไฮไลท์เฉดดิ้งแล้วค่ะ
รูปที่ 3 เสร็จสิ้นการแต่งหน้าทั้งหมด (คิ้ว ตา แก้ม และปาก)
รูปสุดท้าย เปลี่ยนชุดและทำผมแล้วค่ะ

การแต่งหน้าในวันรับปริญญาอาจจะมีขั้นตอนที่มากและยุ่งยากซักหน่อย
แต่รับรองว่า เทคนิคทั้งหมดนี้จะช่วยน้องๆ จะสวยอย่างสุภาพ ภาคภูมิใจกับปริญญาของเรา และสนุกกับการถ่ายรูปได้ตลอดทั้งวันค่ะ
สุดท้ายอยากจะ ฝากน้องๆ ไว้ว่า ใบปริญญาเป็นเพียงแค่ใบประกาสที่เอาไว้แสดงว่าเราจบการศึกษา แล้ว
แต่นับจากนี้ น้องๆ คือ บัณฑิตผู้มีเกียรติภูมิของสถาบันการศึกษาตามหลังชื่อเราตลอดไป และอย่าลืมนำวิชาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคม
เพื่อตอบแทนคุณของแหล่งการศึกษาที่เราได้เล่าเรียนมานะคะ


แถมท้ายด้วย คำถามที่พบบ่อย

“ช่วยแนะนำรองพื้นที่ควบคุมความมันหน่อยค่ะ”
ตอบ:
จากประสบการณ์ยังไม่เคยเจอรองพื้นที่ช่วยควบคุมความมันได้ แม้จะเป็นรองพื้นชนิดแป้งก็ตาม
อย่างดีที่สุด ก็ไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีทำให้ผิวมันน้อยลง แต่ถ้าใครเจอก็ช่วยแนะนำมานะคะ

 

“หน้ามันเยิ้ม จะทำอย่างไรดีคะ”
ตอบ:

แนะนำให้ใช้เซรั่มของ SKIN THEORY ที่มีผลสามารถควบคุมความมันได้ค่ะ
ควบคุมความมันได้ประมาณ 90 – 95%
ทาก่อนลงครีมกันแดด เฉพาะบริเวณที่ผิวมัน
หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตานะคะ เพราะว่า มันจะทำให้ตาแห้งค่ะ

ส่วนเมกอัพเบสที่ควบคุมความมัน มี MAC Prep + Prime Skin Base Visage ค่ะ

แต่ว่าอย่าใช้เยอะ เดี๋ยวจะทำให้รองพื้นเป็นคราบค่ะ ตัวนี้ควบคุมความมันได้ประมาณ 60 – 70%

อีกตัวที่แนะนำ คือ แป้งฝุ่นโปรงแสง Clinique Derma White Brightening
Loose Powder
ควบคุมความมันได้ประมาณ 80 – 90%

ปุ้ยถือว่าตัวนี้เป็นสุดยอดแป้งฝุ่นควบคุมความมันเลย แป้งเนื้อละเอียดมาก
เวลาทาลงที่ผิวจะรู้สึกเย็นๆ นิดๆ
ถ้าใช้เสร็จแล้วต้องปิดฝากระปุกให้สนิท
เพื่อยืดอายุการใช้งานนะคะ ไม่อย่างนั้นแล้วอนุของแป้งที่เป็นแค็ปซูลเก็บกับความเย็นจะเสื่อมสภาพ

ส่วนตัว Touch up กรณีที่อะไรก็เอาไม่อยู่ แนะนำ Smashbox Anti-Shine
ควบคุมความมันได้ประมาณ 80 – 95%
เวลาใช้ต้องใช้นิ้วนวดเนื้อครีมให้แตกตัวเป็นน้ำก่อน แล้วใช้วิธีตกๆ
ลงที่ผิว ทำให้ผิวหน้าบริเวณนั้นถึงกับแห้งเป็นเนื้อแม็ทไปเลย
ข้อควรระวังต้องใช้ปริมาณที่น้อยมากๆ แค่ทำให้นิ้วมือชุ่มไม่ถึงกับเปียก
แล้วตบเบาๆ ลงที่ผิว ไม่ควรปาดเพราะว่าทุกอย่างบนผิวจะกลายเป็นคราบๆ
หลีกเลี่ยงการใช้เป็นสเต็บก่อนลงรองพื้นด้วย เพราะทำให้ผิวแห้งเป็นคราบ
แนะนำให้ใช้ทรัชอัพเท่านั้นค่ะ

ทั้งหมดที่แนะนำควรเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่เกิน 2 อย่างก็พอนะคะ

“ผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุย มีอะไรช่วยได้”
ตอบ:
ปัญหาผิวแห้งเป็นขุย ลอกเป็นแผ่น ไม่ว่าเป็นคนผิวแห้งอยู่แล้ว
หรือเพราะเป็นจากการทายาแก้สิว หรือผิวขาดการบำรุง
ก็ทำให้ประสบปัญหาทำให้รองพื้นไม่ติดหน้า จับตัวแห้งลอกเป็นคราบ
แนะนำให้หาเซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวมาลองทาค่ะ Skin Serum จาก Make Up
Store
ค่ะ
ตัวนี้เป็นตัวบำรุง
เป็นเนื้อเจลที่มีความนุ่มและใช้ความชุ่มชื้นกับผิวมากๆ ทาแล้วผิวจะนุ่มๆ
ลื่นๆ ทำให้เวลาลงรองพื้นและแป้งแล้วจะไม่เกิดขุยๆ หรือเป็นคราบ

“มีปัญหารองพื้นไม่ติดหน้าลอยออกมาเป็นคราบ”
ตอบ:
ปัญหาพวกนี้มักเกิดจากการที่เราขาดการดูแลผิวเป็นเวลานาน
ทำให้ผิวดื้อรั้นไม่รับไม่เอาอะไรทั้งสิ้น
วิธีแก้แบบเร่งด่วน คือ
ก่อนรับปริญญา 1 สัปดาห์ให้สครับผิว แล้วมาส์กหน้าทุกวัน
ควรใช้มาส์กที่ให้ความชุ่มชื้น

หลีกเลี่ยงมาส์กที่ทำให้ผิวขาวหรือมีส่วนผสมของกรดผลไม้และวิตมินซี
เพราะยิ่งทำให้ผิวแห้ง

หลีกเลี่ยงการใช้สครับในคืนก่อนจะแต่งหน้า หรือ 2 วันก่อนแต่งหน้า
เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากค่ะ และการใช้เมกอัพเบสช่วยให้รองพื้นติดทนได้ดีขึ้น
หรือใช้ Skin Serum จาก Make Up Store ก็ช่วยได้ค่ะ
(แต่ให้ทาเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาเท่านั้น หลีกเลี้ยงบริเวณที่ผิวมัน)

“บริเวณใต้ตาคล้ำมาก เหมือนโดนของ”
ตอบ: RMK Concealer ช่วยคุณได้ค่ะ เป็นคอนซีลเลอร์ขั้นเทพปกปิดได้ทุกอย่าง
ควรหามาไว้ในครอบครองซักอัน แนะนำให้หาสีที่พอดีกับผิว
แล้วซื้อแบบที่เป็น
Refill
เพราะตลับจริงแพงมาและแป้งในตลับไม่ค่อยได้ช่วยอะไรมากเท่ากับราคาที่เสีย (ตังค์) ไป
อีกอย่างที่ช่วยให้หน้าหมองๆ ดูสดใสขึ้นได้ คือ เทคนิคการไฮไลท์ค่ะ
(ย้อนกลับไปอ่านได้ด้านบน)

“ตกบ่ายตากลายเป็นหมีแพนด้า เพราะอายไลเนอร์เจ้าปัญหา”
ตอบ:
ปัญหานี้จะหมดไป ถ้าหาก 1) งดใช้อายครีมในตอนเช้า
เพราะอายครีมทำให้ผิวหนังใต้ตาผลิตน้ำมันออกมาตอนบ่าย 2)
ทาอายชาโดวที่เปลือกตาล่างด้วย
เพราะอายชาโดวเป็นเนื้อแป้งจะช่วยเซ็ทความมันบนผิวใต้ตาได้ค่ะ 3)
เลือกอายไลเนอร์ที่ติดทน แนะนำ Maybelline Master Liner เป็นดินสอหมุนๆ
ได้ค่ะ ส่วนพวกเจลไลเนอร์แนะนำของ Bobbibrown และดินสอกับเจลของ Clinique
ก็โอเคค่ะ

“ขนตาชอบหลุด อายมากๆ เลยค่ะ”
ตอบ: 
ปัญหานี้แก้ที่กาวติดขนตาค่ะ
หลีกเลี่ยงการใช้กาวที่แถมมากับขนตานะคะ มันไม่ค่อยเวิร์ค ปุ้ยมี 2
ยี่ห้อที่แนะนำ คือ Arty กับ LashGrip

 

และเทคนิคการ Touchup ระหว่างวัน
รบกวนไปตามอ่านได้ที่หัวข้อ Carry out: 4 การดูแลใบหน้าและทรงผม
ตามลิงค์นี้นะคะ คลิ๊ก คลิ๊ก คลิ๊ก

และสุดท้าย ขอขอบคุณช่างภาพ
น้องณิชและน้องเป๋า ที่มาช่วยถ่ายภาพและให้กำลังใจในการแต่งหน้า และเขียนฮาวทูครั้งนี้ค่ะ

Commencement Makeup © 2009 PuY is me
Facial Snapshot by >Kapao — kapaos.multiply.com งานนี้ต้องขอบคุณน้องเป๋ามาช่วยถ้ารูปขั้นตอนของใบหน้าค่ะ ถ่ายแบบชิวๆ แต่ว่าออกมาสวย ^ ^
Props Snapshot by [Nichieme] —nichieme.multiply.com และขอบคุณน้องณิชที่ช่วยสร้างสรรค์เครื่องสำอางของพี่ใหู้ดูดีขึ้น เยอะ
Model and Makeup Artist: “PuY~ is me” — puyisme.multiply.com

สวยค่ะ แต่งหน้าเก่งมากเลยค่ะ

ขอบคุณที่อุตส่าล็อกอินมาคอมเมนท์ ^ ^

CloveR Ink says:

งามจริงๆ *[]*!!!!

NeSTuM S says:

สวยและเก่งจังค่ะ ได้เคล็ดลับเยอะเรย ขอบคุณที่มาแบ่งปันนะค๊าน้องปุ้ย ^^

ขอบคุณมากๆ ค่ะ ถือว่าเก็บไว้แชร์ให้รุ่นน้อง เนอะ

^^เลยวัยรับปริญญามานานแล้ว แต่ชอบมากๆค่ะ

เป็นบทความที่ดีมาเลยค่ะ พี่ปุ้ย ชอบๆ

ไม่ได้รับแต่งรับปริญญาค่ะ เพราะว่าทำผมไม่ได้ และไม่มีช่างทำผมค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ

c coco says:

รับแต่งหน้ารับปริญญารึป่าวคะ อยากให้พี่แต่งให้มากๆเลย ติดต่อกลับด้วยนะคะ c_sea_z@hotmail.com

อิอิ ดีใจจััง

ขอเอาไปใช้ตอนรับปริญญามั่งนะคะพี่ปุ้ย พี่ปุ้ยสวยจัง ^____^

EYELASH APPLICATOR ของ Make up Store ซื้อที่เคาเตอร์ในห้างค่ะ

ถ้าจะแต่งหน้าเอง และไม่มีความรู้เลย อาจจะต้องใช้เวลาฝึกฝนนานหน่อยนะคะ อย่างต่ำมี 3 เดือนอะค่ะ
ส่วนยี่ห้อเครื่องสำอาง จริงๆ แล้ว ขึ้นกับความชอบของแต่ละคนมากกว่าค่ะ สำหรับพี่ชอบแบนด์ของญี่ปุ่น อย่าง Lunasol
อุปกรณ์พวกแปรง ถ้าที่ชอบสุด ก็ของ MAC แต่ถ้าเพิ่งฝึกหัดก็ยัไงม่จำเป็นต้องใช้ของแพง ค่อยๆ เก็บสะสมไปค่ะ แปรงแต่งหน้าที่วางขายในตลาดนัดก็ใช้ได้
ส่วนทรงผม ยังไงลองไปอ่านดูที่ http://puyisme.multiply.com/journal/item/38/38
อุปกรร์ทำผม ไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่ จะจริงก์ใช้พวก L’oreal ก็ได้ค่ะ

chita suk says:

EYELASH APPLICATOR อุปกรณ์ที่ช่วยติดขนตา ซื้อได้ที่ไหน ใน กทม. คะ พอดีจะแต่งหน้ารับปริญญา แต่ไม่มีความรู้ด้านการแต่งหน้าและทำผมเลย พี่ช่วยแนะนำยี่ห้อ อุปกรณ์เครื่องสำอาง และทรงผมให้ด้วยนะคะ

ขอบคุณมากๆๆๆๆ เลยค่ะ ที่เห็นประโยชน์ของสิ่งที่พี่ตั้งใจทำ ^ ^

ชอบดูฮาวทูพี่ปุ้ยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นประโยชน์และได้สาระทุกทีเลย ^^ ขอบคุณพี่ปุ้ยมากๆที่แชร์สิ่งดีดีแบบนี้นะค๊า ^^ปล.แอบตามมาจากจีบันค่้ะ ^^

ลองแก้ปัญหาตาด้วย สโมกกี้อาย ดูนะคะ แล้วลดความเข้มด้วยการลง กริตเตอร์วิ้งๆ ทับลงไป

ส่วนหน้ากลม อาจจะต้องใช้การ เฉดเดิ้งหนักๆ ช่วย
แล้วก็ใช้เรือ่งทรงผมช่วยค่ะ ลองอ่านเรื่องการเลือกทรงผมดูที่นี่ค่ะ http://puyisme.multiply.com/journal/item/38

jadjae naja says:

พี่ปุ้ย หนูกำลังจะถ่ายรูปรับปริญญา อยากลองแต่งเอง คือหนูมีปัญหาคือ ชั้นตาของหนูไม่เท่ากัน ข้างนึงชั้นเดียว ส่วนอีกข้างสามชั้นแล้วตาเล็กกว่าอีกข้าง แล้วเป็นคนหน้ากลม จะแต่งยังไงดีคะ พี่ช่วยแนะนำหน่อย

แนะนำจากอ่าน หาความรู้เยอะๆ ค่ะ แล้วต่อสะสมเครื่องสำอางไปเรื่อยๆ เริ่มจากรองพื้น ที่เขียนติ้ว เขียนขอบตา แล้วค่อยมาลองอายชาโดว

พี่ปุ้ย หนูไม่มีไรเลย ไม่มีเครื่องสำอาง ไม่มีความรู้เรื่องการแต่งหน้า แล้วหนูควรเริ่มตรงไหนก่อนดีคะ แฮ่ๆ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ

ช่วยให้ติดขนตาได้ไว และง่ายขึ้นจริงๆ ค่ะ

เพิ่งรู้ว่ามันมีของแบบนี้ด้วยนะค่ะ น่าใช้มาก

ขอบคุณค่ะ

mu vespa says:

แต่งเก่งมากเลยค่ะ..สวยธรรมชาติ..^^

ขอบคุณมากๆ เลยคะ่คุณพี่ เรือ่งแบบนี้จะเก่งต้องฝึกฝนเป็ฯสิ่งสำคัญมากๆ ค่ะ คอนเฟิร์ม

น้องแต่งได้เก่งและสวยมากเลย ชอบแบบนี้ เป็ฯธรรมชาติดีค่ะ พี่คงต้องฝึกอีกนาน หน้าตาน้องน่ารักด้วยค่ะ

ดีใจมากๆ ที่มีคนเห็นประโยชน์ของ Content ที่ปุ้ยเขียนค่ะ

ไว้แนะนำพี่ๆที่ต้องรับปีนี้ เจ๋งมากจ้า

ขอบคุณค่ะ

` aay .. says:

สุดยอดเลยค่ะ

meemie may says:

รับแต่งหน้าด้วยหรึเปล่าคะ ชอบมากค่ะ

MiAnG *2 says:

งามชนะเลิศ

ยินดีค่ะ

m ohoska* says:

สุดยอดไปเลยยย

NamTip S says:

ขอเอาฮาวทูพี่ปุ้ยไปใส่ในเว็บนะคะ เผื่อจะเป้นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆคนอื่นๆ >/\

Cheeky mii says:

มุมภาพ สี จัดวาง ชอบๆ

Cheeky mii says:

ถ่ายได้สวย อยากได้เลย

gazabo ™ says:

^0^
___oHo___

make up is magic ^^

ดอกเตอร์กันเลยทีเดียว

สุดยอดครับ

หวังว่าคงนำไปได้กันนะคะ ^ ^

ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ

pp mm says:

เยี่ยมไปเลยค่ะ

Gong VFX says:

โอ้โหหหหห เก่งมากมายเลยอ่ะ ทำได้ไงเนี้ย เขียนติวเตอร์มาซะละเีอียดยิบเลย อย่างกะอ่านหนังสือสอนแต่งหน้า
สุดๆครับ เป็นปณิทานให้คนที่ไม่มีความรู้มากๆ

ขอบคุณค่ะมีประโยชน์มากเลย

PeacH _ZodA says:

สุดยอดมากๆ เลยค่ะ

สวยจริงๆ

ขอบคุณค่ะ

lสวยมากๆ เลยคะ่

ถ้าสิวผด แนะนำว่า ใช้รองพื้นลงย้ำไปหลายๆ รอบอะค่ะ เพราะสิวพวกนี้จะเป็นบริเวณกว้าง แล้วใช้พวก ไฮไลท์ลงทับเพื่อกระจายแสงอำพรางพวกสิวและริ้วรอยได้ค่ะ

ส่วนรอยคล้ำใต้ตา แนะนำ RMK เนี่ยแหละค่ะ ซื้อแบบ Refill มาใช้ 600 บาทค่ะ คุ้มๆ

พี่ปุ๊ยช่วยเเนะนำคอนซิลเลอร์ที่ปิดรอยสิวกับตาคล้ำให้หน่อยค่ะเอาแบบราคาย่อมเยาว์นะค่ะ(เพราะสิวผดกับสิวเสี้ยนเยอะมากไม่รู้จะปิดยังไงดี)
^^ ขอบคุณนะค่ะ
แล้วก็เดี๋ยวจะหาเวลาไปเรียนเเต่งหน้าด้วย

ขอบคุณค่าาาา

aididi .. says:

เยี่ยมสุดๆไปเลย ค่าาา

โอออออออออออออออสุโคยยยยยยยยยยย

สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

จริงๆ ไม่ต้องใช้เยอะขนาดนี้

onsiri T says:

แต่สงสัยต้องไปหาซื้อของตามที่เขียนไว้มาทดลองดูก่อนค่ะ

onsiri T says:

ขอสมัครเป็นลูกศิษย์นะค่ะ จะลองไปทดลองดูค่ะ

ขอบคุณนะคะคนสวย…

ใช้ปัดบริเวณกรอบหน้าอะค่ะ จะช่วยให้หน้าดูมีมิติ และดูผอมลง

แต่ถ้าเอามาปัดแก้มเบาๆ จะได้ลุค ผิวบ่มแดแ น่ารักไปอีกแบบค่ะ

ขอถามหน่อยค่ะ เห็นแต่งหน้าเก่งมากๆเลย…เพิ่งได้ Bronzing Powder #Golden Light ของBobbi Brown มาอ่ะค่ะ
แต่ใช้ไม่ค่อยเป็น ช่วยบอกวิธีใช้หน่อยได้มั้ยคะ ขอบคุณนะคะ

ลองแล้วเอามาให้ดูมั่ง

งง เหมือนกันค่ะ 555

ขอบคุณนะครับ ไว้ต้องลองกะคนที่บ้านซะหน่อย

โห ยังไงอะ งง

สวยต้องสู้นะครับ

ไม่จำเป็นต้องซื้อของแพง สามารถใช้ไอเท็มที่มีลักษณะใกล้เคียงได้นะคะ และก็ลดบางขั้นตอน ที่ไม่ค่อยมีนัยสำคัญ ลงไปได้นะคั

ดูไว้เป็นครูเลยค่ะ แต่ไอเทมที่ใช้ รวม ๆ กันแล้วหลายตังนะคะเนี่ย

apichaya k says:

ขอบคุณมากนะค่ะ
แล้วจะแวะเวียนมาเยี่ยมชมคะ

เคาเตอร์ Make up Store ค่ะ

apichaya k says:

อยากได้ที่ติดขนตาอ่ะ
ซื้อได้ที่ไหนอะค่ะ

การแต่งหน้าขั้นเทพ

เอาไปทำตามมั้ย

สุดยอดเลยคับผมสอนได้แจ่มแมวจิงๆ

แล้วแต่มหาวิทยาลัยนะคะ บางที่ก็ไม่ห้ามทำสีค่ะ

Dear AnNie says:

ถามนิดนึงจ้ะปุ้ย ผมไม่ต้องทำเป็นสีเข้มหรือดำเหรอคะ

จากอาหมวยเป็นเกาหลี

อ๊า… หมายถึงผิวสิ ผิวเนียนเลย ยังไม่แต่งก็หน้าใส หลังแต่งก็ข้มเข้ม ตาสวยมากๆ
**กำลังหาเทคนิคแต่งหน้าให้เพื่อนอยู่ครับ :)

ไม่ถึงกะ Make Up Artist หรอกค่ะ แค่อยากแบ่งปันความสวยให้กัน

เอาไปลองแต่งแล้วเอามาให้ดูมั่ง

masatee ^^ says:

ตาโตเกาหลีในบัดดล

สงสัยเป็น Make Up Artist เก่งจังครับ…

Dear AnNie says:

กรี๊ด สเต็ปเทพมากเลยค่า ชอบมั่กๆ

เนียน ยังไงคะ หน้าเนียน หรือเนียนอะไร

อ่านแล้ว ทำตามได้มั้ยคะ

โอ้ว . .เนียนมากๆ

M y t h s says:

ละเีอียดดีจัง..

ลองดูซิคะ สนุกดีนะ

Dual Carat #BR-1 ของ Kate ใช่แล้วค่ะ
โห ต้องไปซื้อถึงฮ่องกงเลยเหรอ Y Y

plaaaa . says:

อยากทำเป็นมั้งจัง…^^

น้องปุ้ย Dual Carat #BR-1 นี้ของ Kate รึเปล่า พี่เห็นจากรูป เข้าใจถูกรึเปล่าไม่รู้นะ แต่ถ้าเป็นของ kate
ตามภาพที่เป็นสีน้ำตาลนะ
พี่เห็นขายที่ ร้าน sasa ที่ฮ่องกกงนะ ราคาถ้าจำไม่ผิดนะ 88 เหรียญฮ่องกงนะ

บางอย่างก็ซื้อที่ shop บางอย่างก็ซื้อตามเว็บค่ะ
ของ Coastal Scents ซื้อตามเว็บ มีคนไทยหิ้วมาขายค่ะ
ลองไป search ใน weloveshopping.com ดูก็ได้ค่ะ

ratta tangka says:

ปกติพี่ปุ้ยซื้อเครื่องสำอางที่shopเลยรึป่าวคะ
ของCoastal Scents ซื้อที่ไหนอ่ะค่ะ

อยากได้มั่กๆค่ะ

จ้าาาา ขอบคุณค่าาาา

เป้น how to ที่ มีประโยช กับน้องๆมากเลยครับ
^^
ไว้ว่างๆจะขออณุญาติทำลิงค์แนะนำจากบ้านผมมาที่นี้นะ

สุดยอดตลอดกาล ^^

da da says:

สุดยอด

พี่ใส่ GEO Nudy Brown ค่ะ
ใส่รับปริญญา ก้แนะนำว่าสีน้ำตาลดีแล้วค่ะ เรพาะว่าดูธรรมชาติ สุภาพ

tang "" says:

พี่ค่ะ สวยมากเลย ค่ะ อยากรู้ว่าพี่ใส่คอนเทคยี่ห้ออะไรค่ะ.. สีอะไรด้วยสวยมาก
แล้วถ้ารับปริญญา ใส่คอนแทคโทนสีน้ำตาลจะโอเครึป่าวค่ะ รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

เยี่ยมเลย อาทิตย์หน้าเค้าจะไปออกงานพอดีต้องลองมั้งละ

ขอบคุณค่ะ

milk milk says:

สวยจัง

สุดยอดลเลยครับเพิ่งเคยเห็นเลยงะบอิอิ

ลองทำดูนะคะ
แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อไอเท็มตามแบบนี้ก็ได้ค่ะ เอาของที่มี ที่คล้ายๆ มาประยุกต์เอาค่ะ
บางขั้นตอน ก็ลดลงได้ค่ะ

Art Castro says:

หูว เก่งมาก

ดีนะที่เกิดเป็นผู้ชาย มะต้องแต่งหน้า

เข้ามาอ่านจนจบเลย

ขอบคุณสำหรับความรู้ทั้งหมดนะคะ ^^

จะลองเอาไปทำดูบ้าง เผื่อได้แต่งหน้ารับปริญญาเอง และอาจรับจ็อบเป็นบางโอกาสด้วยค่ะ อิอิ

แต่..แต่ละไอเทมเนี่ย รวมๆกันแล้ว คิดหนักน๊า ก่อนจะซื้อ หุหุ

ขอบคุณมากๆค่ะ ^^

แต่งหน้าเก่งมากๆเลยค่า บอกขั้นตอนละเอียดสุดๆ

ชอบมั่กๆค่า อยากแต่งเป็นมั่งจัง

เป็นเพื่อนกะพี่แจน007 ช่ายป่ะคะ

ขอบคุณมากเลยค่าาาา ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

สวยมากกก
แอบติดตาม พี่ปุ้ยมานาน
แต่ไม่รู้ว่า พี่มี multiply ด้วย
งั้นขอมาเป็นแฟนคลับเลยนะคะ 555

ขนาดผมเป็นผู้ชาย และแต่งหน้าไม่เป็น ยังชอบเลยครับ เจ๋งมาก ^^

ไม่แต่งก็น่ารัก แต่งแล้วก็สวยไปเรยจร้า * *

Ploen U. says:

แต่งหน้าเก่งมากเลยค่ะ อยากแต่งเป็นบ้างจัง ลองฝึกๆแต่งแต่ไม่เคยเก็บรายละเอียดแบบนี้เลย เพิ่งไปถ่ายรูปมา ติชมด้วยนะคะ ^^ อยากอ่าน How to อีกนะคะ

SomZa' ... says:

เก่งจัง

มาช้า ไปหน่อย แต่ขอบอก เจ๋งมั่กๆ ด้วยคนนนนน

เจ๋งจริงๆ ค่ะ

โอ..

ละเอียดมากฮะ

เคยถ่ายภาพบัณฑิตท่านนึง…

แต่งหน้าเก่งมาก ทั้งๆที่นัดเจอกันตอนแรก คิดในใจว่าเจอศึกหนักแล้ว

แต่งหน้าถูกวิธี ช่วยได้เยอะนะครับ

^__^

ถึงจะไม่ได้แต่งหน้า แต่ก็รู้สึกว่าขั้นเทพจริงๆ
ยกนิ้วให้เลย :D

Piggy E. says:

เจ๋งจัง น่าดึงมาอยู่ทีมweddingจัง ^-^

เห็นพูดงี้ทุกคน เอาเข้าจริงก็ไม่เห็นมาให้แต่ง

i Golf says:

แต่งหน้ามันยากจัง ว่างๆมาแต่งให้บ้างจิ

ขั้นเทพ หน้าเด้งด้วยฝีมือกิงๆ ไม่ต้องพึ่ง PS เลย

ข้าน้อยขอคารวะคร้าบบบบบบ ^^

ยอดเยี่ยมมากเลยครับ

สวยมากๆจ้า

เดี๋ยว อีกซักพัก จะทำ ฮาวทู เร็วแต่สวย
แล้วก็ ฮาวทูแบบเศรษฐกิจเพียงพอ ดีมั้ยคะ

Nuk Heinrich says:

ตามมาจากสวัสดีมัลติพลายค่ะ ขอบคุณที่แชร์ความรู้ดีๆนะคะน้องปุ้ย ชอบจังเลย แต่คราวนี้พี่ลูกสองแล้วคงไม่มีเวลาค่ะ เอาแบบห้านาทีเสร็จมีมั้ยคะ ฮ่าๆ เดี๋ยวต้องสั่งสามีเอา La Mer Translucent มาให้ลองซะหน่อยละค่ะ

สวยมาก ๆ เลยคร่า

vaporub t says:

อ่านเหนื่อยเเต่ได้ความรู้ อดทนอ่านได้ค่า^_^

คนเขียนเหนื่อย คนอ่านเหนื่อย ไว้คราวหน้าจะเพลาๆ ลงหน่อยค่ะ

vaporub t says:

อ่านจนเหนื่อยเลย อิอิ

แต่ถ้าหน้าตาไม่ดี ยิ่งแต่งยิ่งสวยกว่าค่ะ

jiji jaja says:

ละเอียดมากๆเลยคับ ชอบๆ

ผมว่าคนเป็นแบบหน้าตาดีอยู่แล้ว ยิ่งแต่งก็คงยิ่งสวยนะ

แวะมาดูคับ

ตากล้องคู่ใจ หาย๊ากยากค่ะ
แต่ที่ผ่านๆ มาก็มีเพื่อนๆ กับน้องๆ ฝีมือดีๆ มาช่วยตลอดค่ะ

Sirichai J. says:

เทพมากเลย อย่างนี้ตากล้องคนไหนได้ไปเป็นช่างแต่งหน้าคู่ใจให้นางแบบนี้ แจ่มที่สุดเลย

รับแต่ไม่ค่อยรับเยอะอะค่ะ พี่ไม่ค่อยมีเวลาค่าาา

ต้องฝึกฝน อดทน ค่ะ

karn lee says:

แต่งสวยมากๆค่า พี่รับแต่งหน้าป่าวคะ หนูลองแต่งแล้วคือว่าแต่งไม่เป็นเลยอ่าค่ะ

จะพยายามทำอะค่ะ
แต่ว่าออกมามันก็ไม่ต่างจากนี้เท่าไหร่ จะเปลี่ยนทรงผมและชุดอะค่ะ

ส่วนใหญ่แล้ว ถ้ารับงานจากลูกค้า จะไม่ค่อยเอาผลงานมาลงเท่าไหร่อะค่ะ
ถือว่า ให้เกียรติลูกค้า และไม่ไ่ด้คิดหวังผลจากเค้าอะค่ะ

มันเป็นแนวคิดของปุ้ยเอง อาจจะดูแปลกๆ ^ ^

งานที่เอามาลงที่เว็บนี้ จะเป็นงานที่ทำเองกับเพื่อนๆ สนุกดีทำเพราะอยากทำ
แล้วก็มาแชร์สิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะอยากแชร์ แค่นั้นเองค่ะ

โทษนะคับ อยากทราบว่าไม่มี reviewรูปแต่งหน้าเจ้าสาวบ้างหรอคับ อยากดู เผื่อจะได้ร่วมงานกันบ้าง

MiND * says:

แต่งตาได้โต + สวยมั่กๆๆๆๆๆๆ ค่ะ :D

รับไปซื้อเลย พี่ว่าเดี๋ยวจาขาดตลาด

.TATAM @^_^@ says:

ชอบมากเลย

สวยมากเลย ได้ความรู้อีกเพียบ

สวยมากเลย ได้ความรู้อีกเพียบ

Tritra Posh says:

เทพจิงๆ สวยยยมากค่ะ

เจ้าแม่ฮาวทู

Tritra Posh says:

อันนี้น่าใช้มากๆ

Tritra Posh says:

สวยค่ะ

Tritra Posh says:

พี่ปุ้ยยยยยยยย เว่อมากๆ ค่ะ
เริ่ดสุดๆ หนูจ้างเค้ายังไม่ได้ขนาดนี้เรยมั้งเนี่ย

ทำได้งายคะ

ขอกรี๊สสส !!!!!!!!

พี่ปุ้ยยยยย ขยันแมกซซซซซซ ขอยกนิ้วให้เลย
เป็นประโยชน์มากมายค่ะ….เดี๋ยวแป้งจะเก็บไปใช้นะคะ ^ ^

ของเค้าดีจริงๆนะ

สุดยอดจริงๆคร้าบบบ เนียนเลยยย

ถ้าไมไ่ด้น้องณิช คอยให้กำลังใจ พี่คงทำไม่ได้ถึงขนาดนี้

NineYut Yut says:

บอกได้คำเดี่ยวว่าสุดยอกเลย สวยมากๆๆ ปุ้ยแต่งหน้าเก่งมาก แต่งแล้ว สวยขึ้นเยอะเลย (จากเดิมๆๆที่สวยอยู่แล้ว 555)

เก่งจังแต่งแบบนี้…เริ่ด ^__^

โย่ววววววววววววววววววววววววววววว สงบนิ่ง สดุดีกับความตั้งใจจริง

Wassy Thanes says:

พี่ปุ้ยแต่งหน้าเก่งมากเลยค่ะ ขั้นเทพแล้ววว ^^

สวยมากเลยคร้า เก่งจัง

Pommy Pommy says:

lสุดยอดขอรับ…

ละเอียดสุดยอดเลย แล้วก้อสวยมากเลยคะ ยินดีด้วยนะคะ

Orb ^^♥ says:

น้องปุ้ยนี่งามจิงๆๆๆ
สวยมากคร่าา ^ ^
ปลื้มๆๆๆๆ

Orb ^^♥ says:

สุดยอดดดดดดดดดดดดดด
ชนะเลิศค่าาาาาาาา

สุดยอดเลยครับ

เยี่ยมเลย
เพิ่งรู้นะครับเนี่ย ว่าต้องแต่งกันมากมายขนาดนี้

โห เจ๋งมากครับ..เพิ่งจะเคยเห็นแบบละเอียดๆ แบบนี้ ชอบมากครับ..

จะเอาไปพยายามลองปรับปรุงกับเทคนิคสำหรับวิชาชีพอื่นๆบ้างครับ..

ขอบคุณมากครับ..