My passion, All beautiful things and any nice concern share the world beauty by puy ~ is me

Review 12 Plus Miracle CC Jewelry Powder SPF30 PA++

เมื่อครั้งก่อนโน้้น ได้พูดถึง เทรนด์ของ Color Control Makeup เอา ไว้
ถึงความเจ๋งในเรื่องการควบคุมสีผิวและปรับสภาพผิว ทำให้ผิวของเรามีความนวลเนียน กระจ่างใส
แลดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับสีผิวจริง ไม่ดรอป ไม่หมอง สีผิวไม่เปลี่ยนระหว่างวัน


ซึ่ง ก็มีน้องๆ สนใจแล้วก็ถามมามากมาย แต่ว่า บางคนอาจจะมีปัญหาในการใช้งานผลิตภัณฑ์ประเภทครีม
ที่ใช้ไม่สะดวก และมีความยุ่งยาก อีกอย่างผลิตภัณฑ์เนื้อครีม อาจจะไม่เหมาะกับสภาพอากาศในเมืองไทยช่วงนี้
ที่อากาศร้อน อบอ้าวและมีความชื้นจากฝน นั่นเอง

วันก่อน ปุ้ยไปเดินช็อปปิ้งในซุปเปอร์มาเก็ตที่ห้างพารากอน
แล้วไปเจอผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ต้องสะดุด หยุดดู
มันคือ แป้งซีซี (CC Powder) ของ 12 Plus เอ้อ…น่าสนใจ คิดว่าอันนี้ต้องตอบโจทย์ให้กับน้องๆ ที่มาถามกันได้อย่าแน่นอน จึงซื้อกลับมาบ้าน พิสูจน์กันก่อน ที่จะมาบอกต่อค่ะ

ถ้าถามว่าแป้งซีซี ตอบโจทย์อะไรบ้าง
1. ความสะดวกในการใช้งาน
ทำให้ เราสามารถลดขั้นตอนการใช้งาน จาก 4 ขั้นตอน
(บีบเนื้อครีม เกลี่ยเนื้อครีมลงที่ผิว เซ็ทด้วยแป้งฝุ่น และตามด้วยแป้งพัฟ)
มาเหลือเพียงขั้นตอนเดียว คือ การเกลี่ยแป้งลงที่ผิวให้นวลเนียน หน้าของเราก็สวยเด้ง
ออกไปลั่นล้านอกบ้านได้แล้ว
2. เหมาะกับสภาพผิวของคนไทย

ด้วย เหตุผลที่ว่า แบรนด์ผู้ผลิตเป็นของไทยเอง ดังนั้นการตอบโจทย์เรื่องสีผิว
ซึ่งเป็นประเด็นหลักของผลิตภัณฑ์เลยก็ว่าได้ อีกทั้งความเหมาะสมกับสภาพผิวของคนไทย
ย่อมเป็นไปได้มากกว่าแบรนด์เกาหลีแน่นอนที่สุด
3. ลดความเหนอะหนะระหว่างวัน

แน่นอน ว่าแป้งย่อมมีคุณสมบัติการดูดซับความชื้นและความมันจากผิวได้กว่าผลิตภัณฑ์ เนื้อครีม
ที่นอกจากไม่ช่วยเรื่องความชื้นแล้ว ยังเพิ่มความมันให้กับผิวของเราอีกด้วย
4. ให้ความเรียบเนียนมากขึ้น
เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์ประเภทแป้งจะมีพิกเมนท์การปกปิดที่มากกว่า ประเภทเนื้อครีมนั่นเอง
ส่วนถ้าใครไม่ชอบหน้าหนาเตอะ ก็ต้องใช้ในประมาณที่น้อยนิด หรือว่าใช้อุปกรณ์ประเภทแปรง
เข้ามาช่วยปัดแป้งลงที่ผิว ก็จะได้ความบางเบากว่าการใช้พัฟฟองน้ำนั่นเอง

ต่อไปมาพูดถึงการรีวิว และแนะนำเทคนิคการใช้งานและการเลือกซื้อบ้าง

ทเวลฟ์ พลัส มิราเคิล ซีซี จิวเวอรี่ พาวเดอร์ เอสพีเอฟ30 พีเอ++
(12 Plus Miracle CC Jewelry Powder SPF30 PA++)

ลักษณะและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ (Observe the product attributes):
Featured Ingredient:
ส่วนประกอบที่สำคัญ: Powder Foundation, Sunscreen Agent, Skin-Conditioning Agent, Color Control
ซึ่ง ทำให้ด้วยเนื้อแป้งเนียนละเอียดแนบสนิทไปกับผิว บางเบา แต่ติดทนนาน
ปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดด้วยค่า SPF 30 PA++ ควบคุมความมันได้ยาวนาน 12 ชั่วโมง
นอกจากนั้นแล้ว ยังเพิ่มส่วนผสมพิเศษอันล้ำค่าจากธรรมชาติ คือ Jewelry Complex:

  •    เพชร (Diamond) ลดความหมองคล้ำ ดูเปล่งประกายสดใส
  •    ทองคำ (Gold) เพิ่มความสว่างกระจ่างใส
  •    ทับทิม (Ruby) ให้ผิวแลดูมีสุขภาพดี
  •    ไข่มุก (Pearl) ผิวดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน

Appearance: Package | Scent | Color | Looks | Surface | Weight | Price
บรรจุภัณฑ์เป็นตลับทำจากพลาสติกสีชมพูเข้ม (Shocking Pink) มีลวดลายนูนสูงให้อารมณ์แบบเจ้าหญิงๆ
และมีคลิสตัลเม็ดเล็กๆ ประดับให้ดูหรูหรา เป็นนัยว่าผลิตภัณฑ์นี้ มีส่วนผสมจากอัญมณีล้ำค่า
เนื้อแป้งมีกลิ่นหอมละมุนแบบน่ารัก ทำให้เวลาใช้จะรู้สึกดีและรู้สึกว่าเราสวยแบบมีคุณค่า
สีของเนื้อแป้งพอนำมาทาที่ผิวแล้วได้เป็นสีแบบเดียวกับที่เห็นในตลับเลย
ลุคที่ได้จะเป็นผิวเนื้อแม็ตนวลเนียน เรียบแบบไร้ที่ติ ไม่เห็นรูขุมขนแบบสาวเกาหลีเลย
ปริมาณสุทธิ 9 กรัม ราคา 209 บาท

Application: Moisture | Applying | Absorption | Duration | Anti-Oily Skin |Reasonable Price
หลังจากที่ทดลองใช้แล้ว เนื้อแป้งนุ่มนวล ละเอียด แต่บางเบา
ถ้าอยากให้ปริมาณการปกปิดที่มาก ให้ใช้วิธีการกดพัฟลงที่ผิว แทนการปาดในแนวยาวค่ะ
การเกาะติดของเนื้อแป้งกับผิว ก็เป็นไปได้ดีเยี่ยม อยู่ทนตลอดทั้งวัน สามารถช่วยควบคุมความมันได้ดี
แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีแบบ 100% ให้ลองใช้คู่กับ เมกอัพเบสที่ช่วยเรื่องควบคุมความมันด้วยค่ะ
แป้งตัวนี้ไมไ่ด้ทำให้ผิวแห้งสนิทไปเลย แต่จะช่วยทำให้ผิวนุ่มเพราะว่ามีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวด้วย
สำหรับคนที่ผิวมันมากๆ อาจจะมีการซับมันบริเวณสันจมูกวันและ 1 – 2 ครั้ง
แค่นี้หน้าจองเราก็เนียนกระจ่างใส สีไม่เปลี่ยน ไม่ดร็อป แล้วก็หน้าสวยเด้ง ไม่หมองระหว่างวันเลยหละค่ะ

Instruction | Caution | Adaptability
แป้งตัวนี้เหมาะกับคนที่ ชื่นชอบการปกปิดผิวโดยใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทแป้ง ที่ให้ความเนียนของผิวระดับปานกลาง ถึง มาก
แป้งตัวนี้มีความเจ๋งในเรื่องการทำให้สีผิวดูกระจ่างใส และควบคุมสีของแป้งที่อยู่บนผิวไม่ให้เปลี่ยนสีได้ตลอดทั้งวัน
แป้งตัวนี้ไม่ทำให้หน้าดูขาววอก แต่ช่วยปรับสีผิวให้ดูสว่างขึ้นค่ะ
ส่วนความติดทนของแป้ง ขึ้นกับวิธีการใช้และการดูแลผิวระหว่างวันของเราด้วยค่ะ

ความคุ้มค่าต่อราคา ถือว่า ตัวนี้โอเคมากๆ  กับราคา 200 กับอีก 9 บาท เท่านั้น
และยังหาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้ออีกด้วย

คำแนะนำในการใช้งาน:
- หากต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทแป้งให้ติดทนทั้งวัน ควรใช้ควบคู่กับ
เมกอัพเบสที่ช่วยให้เมกอัพติดทน นอกจากนั้นแล้วจะช่วยป้องกันการเกิดคราบ สำหรับคนที่มักมีปัญหาดังกล่าว
- หากต้องการให้แป้งควบคุมความมันแบบ 100% ให้ลองใช้คู่กับ เมกอัพเบสที่ช่วยเรื่องควบคุมความมันด้วยค่ะ
- เทคนิคการใช้งานควรมีการกดเนื้อแป้งลงที่ผิวด้วยแรงที่พอเหมาะค่ะ

ข้อควรระวัง:
- ถ้าผิวแห้งสนิทและใช้แป้งในลักษณะที่แตะเบาๆ แน่นอนว่า แป้งมันจะไม่ติดผิวโดยทฤษฎีอยู่แล้ว

- ถ้ามีการทาพวกครีบบำรุงผิว ควรรอให้ครีมซึมเข้่่าผิวจนหมดก่อน ไม่ควรใช้แป้งในขณะที่ผิวยังเปียก
หรือเพิ่งทาครีมทันที เพราะจะทำให้เกิดอาการเป็นคราบได้นะคะ
- ถ้ามีกิจกรรมระหว่างวันที่ทำให้ที่เหงื่อไหลลงที่หน้าในปริมาณมาก ควรรีบซับเหงื่อภายใน 5 นาที
อย่าปล่อยให้เหงื่อไหลเยิ้มอยู่แบบนั้น เพราะมันจะทำให้แป้งโดยผลักตัวออกจากผิวและไหลออกมาตามเหงื่อ
จนเป็นคราบได้ ค่ะ
- ถ้าเป็นคนผิวมีความมันมาก ควรใช้กระดาษซับมันซับในบริเวณที่มีความมัน อย่าปล่อยทิ้งไว้เกิน 2 -3 ชม.
เนื้อแป้งจะถูกน้ำมันผลักออกมา ถ้าเราซับมันก็จะช่วยเซ็ทให้เนื้อแป้งอยู่ตัวเข้าที่ได้
แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป น้ำมันจากผิวในปริมาณมากๆ จะทำให้เนื้อแป้งละลายและเคลื่อนตัวออกจากผิว
เป็นที่มาของการเกิดคราบแป้งค่ะ

การประยุกต์และเลือกใช้:
สำหรับคนที่มีสีผิวขาว หรือคนที่มีสีผิวปานกลางแต่ชอบให้ผิวดูส่ว่างขึ้น ควรเลือกใช้สี เบอร์ 1
คนที่มีสีผิวปานกลาง ไม่ขาวไม่คล้ำ คนที่มีผิวสองสี หรือสีค่อนข้างเข้มแต่อยากให้ผิวดูสว่างขึ้น ควรเลือกใช้สีเบอร์ 2
ถ้าหากสีแป้งมีความสว่างมากกว่าสีผิว หรือคนที่ไม่ชอบใช้แป้งลงเป็นรองพื้นทั้งหน้า
สามารถใช้แป้งแตะบางๆ แค่บริเวณส่วนกลางของใบหน้า ก็จะช่วยให้ใบหน้า ดูกระจ่าง สว่างใสขึ้นได้เลย
โดยบริเวณที่ใช้ คือ

  • บริเวณส่วนกลางหน้าผากระหว่างเหนือหัวคิ้วทั้งสองข้าง
  • บริเวณใต้ดวงตาลงมาซัก 2 ชม. เหนือพวงแก้ม
  • บริเวณแนวยาวของสันจมูก
  • บริเวณแก้มข้างมุมปาก
  • และบริเวณคาง

ส่วนตัวแล้ว ปุ้ยชอบแป้งตัวนี้มาก ถึงแม้ว่า ปุ้ยจะไม่ค่อยใช้แป้งสำหรับการลงรองพื้นผิวหน้า
แต่พอมาทดลองแป้งตัวนี้แล้ว ถือได้ว่า…ประทับใจ

ปุ้ย ใช้สีเบอร์ 2 เพราะสีมีพอดีกับสีผิวบริเวณกรอบหน้า
และจะใช้เบอร์ 1 ในบริเวณส่วนกลางของใบหน้าที่แนะนำไว้
ทำให้ผิวของเราดูมีมิติ กระจ่างใสขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์
ซึ่งแป้งตัวนี้อยู่ติดทนตลอดทั้งวันจริงๆ ไม่ต้องทัชอัพเพิ่มระหว่างวันเลยค่ะ
แต่ปุ้ยเป็นคนผิวหน้ามันมากๆ จะมีความมัน เกิดขึ้นช่วยเย็นๆ ค่ำ แค่บริเวณ ปลายจมูกเท่านั้น

ถือ ว่าโอเคมากๆ กับประสิทธิภาพและคุณภาพของแป้งที่ราคาไม่แพงเลย แถมหาซื้อง่าย
วันไหนเราเกิดเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับเมกอัพของผิวหน้า ก็สามารถคว้าเจ้าตัวนี้มาช่วยชีวิตเราได้ทันใจ

และ เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จและน่าภาคภูมิใจอีกแบรนด์หนึ่งของคนไทย
ที่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่เหมาะกับการใช้งานของคนไทยเองได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ ปรบมือดังๆ ให้เลย

 

Camera: SONY Cyber-shot DSC-W300
Photo Editer: Adobe Lightroom and Photoshop CS4

 

cc ตัวนี้ถ้าเราลงรองพื้นก่อน จะทำให้หน้าเราหนาหรือเปล่าคะ

อิอิ เลิฟเลิฟ

ขอบคุณมากกกก เลยค่ะ ที่มาแชร์ให้ฟัง

ว๊าวววววววววว เราใช้เบอร์ C1 อ่ะ ออกขาวอมชมพู

เนียนดีอ่ะ หน้าไม่มันด้วย เลิฟสุดๆๆ

ว๊าว หนูพึ่งไปสอยมาเมื่อวานนี้เอง ที่วสันต์
ชอบมากเลยค่ะ ปกติเวลาไปเรียนช่วงเช้า
พอเรียนเสร็จก่อนไปกินข้าวต้องเติมแป้ง
แต่วันนี้ไม่ได้เติมเลยค่ะ แค่ใช้ทิชชูซับๆแค่นั้นเอง
หนูเลือกซื้อ เบอร์ 2 ค่ะ…เพราะเป็นคนผิวสองสี^^
ก่อนหน้านี้ใช้ 12 Plus BB ตลับสีชมพู(ตลับคล้ายๆCC) ก็ชอบน่ะค่ะ
พอหมด…12 Plus BB ตลับสีม่วง ขนาดทดลองที่ 7-eleven
>>ปกปิดดีเกินไป รู้สึกหนาๆ อารมณ์เดียวกันกับREVLON สีแดงเลย
ตอนนี้ใช้ 12 Plus CC อยากบอกว่าปลื้มม๊ากค่ะ…

ว๊าว หนูพึ่งไปสอยมาเมื่อวานนี้เอง ที่วสันต์
ชอบมากเลยค่ะ ปกติเวลาไปเรียนช่วงเช้า
พอเรียนเสร็จก่อนไปกินข้าวต้องเติมแป้ง
แต่วันนี้ไม่ได้เติมเลยค่ะ แค่ใช้ทิชชูซับๆแค่นั้นเอง
หนูเลือกซื้อ เบอร์ 2 ค่ะ…เพราะเป็นคนผิวสองสี^^
ก่อนหน้านี้ใช้ 12 Plus BB ตลับสีชมพู(ตลับคล้ายๆCC) ชอบน่ะ
พอหมด…12 Plus BB ตลับสีม่วง ขนาดทดลองที่ 7-eleven >>ปกปิดดีเกินไป รู้สึกหนาๆ
ตอนนี้ใช้ 12 Plus CC อยากบอกว่าปลื้มม๊าก..

ว๊าว…หนูก็พึ่งไปสอยมาเมื่อวานนี้เอง ที่วสันต์^^